29 ธันวาคม 2560 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผมได้ให้ทนายยื่นหนังสือขอให้สอบพยานบุคคลเพิ่มเติม กรณีที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาผมในข้อหาฟอกเงิน โดยผมได้ขอให้สอบพยานบุคคลเพิ่มประมาณ 20 ปากครับ
ถ้าดีเอสไอมีความตั้งใจที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาอย่างที่ควรจะเป็น เพียงแค่เรียกสอบพยานวันละ 4-5 คน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็เสร็จสิ้น ไม่ได้เสียเวลาแต่ประการใด แต่ทางดีเอสไอ กลับตัดพยานสำคัญออกเกือบหมด เหลือไว้เพียง 8 คนเท่านั้น
พยานที่ถูกตัดออกนั้น หลายคนคืออดีตเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของดีเอสไอ ที่จะมาให้ข้อเท็จจริงได้ว่า ในทางคดีนั้น ตัวผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย และไม่เคยกระทำการใดๆ ที่จะเป็นความผิดในคดีฟอกเงินทั้งสิ้น และหนึ่งในพยานที่ถูกตัดออก คืออดีตเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของดีเอสไอที่ถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม และยังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ เนื่องจากทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และอาจทำงานไม่ตอบสนองกลุ่มบุคคลที่ถูกส่งมากำกับดูแล และคอยชักใยอยู่เบื้องหลังเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ ให้รีบสอบสวนเพื่อเอาผิดคดีนั้น แต่ยกเว้นยังไม่ต้องทำคดีนี้ อยู่ตลอดเวลา
และหากเหตุผลที่ตัดพยานเหล่านี้ออกคือ การปฏิบัติตาม “ธง” เพื่อตอบสนอง ”นาย” เมื่อสั่งมาให้ต้องฟ้อง ก็ต้องทำทุกทางเพื่อให้ฟ้องให้ได้ อะไรที่เป็นคุณกับผู้ถูกกล่าวหาก็ตัดออก แล้วไปหาเหตุที่เป็นโทษมาใส่เข้าไป มันจะได้ดูน่าเชื่อถือให้สั่งฟ้องได้
รัฐบาลที่คอยแอบสั่งหน่วยงานของรัฐ ให้คอยเป็นมือ-เป็นเท้าในการกระทืบฝ่ายตรงข้าม และสั่งให้ “ลดราวาศอก” เพื่อช่วยฟอกขาวให้กับพวกของตน อย่าคิดว่าคนอื่นจะรู้ไม่ทันครับ เจ้าหน้าที่ดีๆ ที่มีความรู้ความสามารถ ยึดหลักการของการทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ท่านเล่นย้ายออกไปแทบจะหมดสิ้น แบบนี้หรือคือ ธรรมาภิบาลของการเข้ามาสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติ..!!ผมต้องปกป้องสิทธิของผม ด้วยการให้ทนายไปยื่นหนังสือ เพื่อขอให้ทบทวนการตัดพยานบุคคลที่ผมได้อ้างไว้ในคำแก้ข้อกล่าวหาของผมอีกครั้งครับ วัดกันดูครับ ระหว่าง “ธง” จากผู้มีอำนาจ กับ “ความถูกต้อง” DSI จะเลือกทางไหน
สำนักข่าววิหคนิวส์