10 มิ.ย.61 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในงานสัมมนา “แก้ปัญหาพลังงานอย่างไร ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน” จัดโดย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน ว่า ราคาพลังงานในตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง อาจจะขึ้นหรือลงก็ได้ แต่ตนขอตอกย้ำสิ่งที่ได้เสนอไว้แล้วเพราะไม่ว่าราคาพลังงานจะขึ้นหรือลง รัฐบาลก็ควรดำเนินการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้บริโภค ดังนี้
1.การปรับราคาเอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ให้อยู่ในราคาตลาด ซึ่งเรื่องนี้ตนในฐานะคนยกเลิกเบนซิน 91 ทำให้มีการใช้เอทานอลมาก เคยปรึกษาด้วยเหตุและผลกับผู้ประกอบการผลิตเอทานอลรายใหญ่บางรายแล้วในช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงมาก พวกเขายอมรับได้ รวมถึงการกำหนดราคาน้ำมันปาล์มที่ผสมในไบโอดีเซลให้เหมาะสมด้วย 2.การกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นให้เท่าสิงคโปร์โดยไม่ต้องรวมค่าขนส่งจากสิงคโปร์ และ 3.การกำหนดค่าการตลาดให้เหมาะสม
นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่เริ่มกลับมาทยอยเก็บในรัฐบาลนี้ในช่วงที่น้ำมันตลาดโลกมีราคาลดลง ก็แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาว่าถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกมีราคาสูงขึ้นมาก รัฐบาลควรจะลดหรือไม่ หรือลดเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันจากที่ไม่เก็บเลยก่อนการปฏิวัติ มาเก็บสูงถึง 5.85 บาทต่อลิตร
“ยังอยากให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบการทุจริตใน บมจ.ปตท.ทั้งในเรื่องการทุจริตโครงการสวนปาล์มในอินโดนีเซีย โครงการออยล์แซนด์ในประเทศแคนนาดา และโครงการท่อก๊าซอียิปต์ – อิสราเอล และอยากเห็นแนวทางนโยบายพลังงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจน เพราะแนวทางปัจจุบันได้สร้างความสับสนให้กับประชาขนอย่างมาก อีกทั้งยังสวนกับทิศทางโลก โดยอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามตัวเองกลับไปบ้างว่าได้ทำอะไรบ้างตลอด 4 ปีนี้ ในเรื่องพลังงาน เพราะประชาชนนึกไม่ออก” นายพิชัย กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์