เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #พิธา เต้นขอโทษ ! หลังข้าราชการ ไม่ยอม ขอตัดงบบำนาญเปรียบเป็น”ช้างป่วย”

#พิธา เต้นขอโทษ ! หลังข้าราชการ ไม่ยอม ขอตัดงบบำนาญเปรียบเป็น”ช้างป่วย”

8 June 2022
337   0

   7 มิ.ย.2565 – ประชาสัมพันธ์ พรรคก้าวไกล ระบุว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอบจดหมาย นายศรศักดิ์ อ้วนล้วน ประธานศูนย์พิทักษ์สิทธิและสวัสดิการข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทย ที่มีคำถามต่อกรณีการอภิปรายงบประมาณปี 66 เกี่ยวกับผลกระทบต่อข้าราชการบำนาญ ว่าเป็นการตอบจดหมายตามสัญญาเพื่อตอบข้อสงสัยที่มีต่อการอภิปรายงบประมาณของตนในสภา 3 ประเด็น​

ประเด็นที่ 1 มีอคติกับข้าราชการบำนาญหรือไม่ อะไรคือความหมายของงบช้างป่วย​นายพิธา ตอบว่า งบช้างป่วย ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงข้าราชการบำนาญแต่หมายถึง วิธีในการจัดงบประมาณประเทศของรัฐบาลที่รวมถึง รายได้ รายจ่าย การกู้ชดเชยขาดดุล ซึ่งจะไม่สามารถทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างยั่งยืน

“ผมต้องเรียนท่านว่าผมมีคนในครอบครัวเป็นข้าราชการบำนาญ ตัวผมเองก็เคยทำงานที่กระทรวงพาณิชย์มาก่อน เข้าใจหัวอกข้าราชการเรื่องค่าตอบแทนที่น้อยกว่าเอกชนและปัญหาของข้าราชการไทยในการดูแลประชาชนไม่มากก็น้อย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะมีอคติต่อข้าราชการครับ”นายพิธา​ กล่าว

ประเด็นที่ 2 มีนโยบายในการตัดงบประมาณเงินเดือนหรือบำนาญหรือไม่ น​า​ยพิธา ตอบว่า ไม่ตัด ไม่ลด เงินบำนาญท่านจะไม่ถูกกระทบ

“ผมไม่เคยพูดว่าบำนาญ เป็นปัญหาหรือภาระ แต่พูดว่า หากหารายได้ เก็บรายได้ไม่ได้สอดคล้องรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะมีปัญหารวมถึงสวัสดิการประชาชนหรือแม้แต่สวัสดิการข้าราชการเองในอนาคต ในทางกลับกัน ถ้าไม่พูดถึงตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อช่วยกันแก้ไข เกรงว่าสถานการณ์อาจสายเกินแก้ และอาจกลายเป็นปัญหาขึ้นมาจริงๆ เมื่อรัฐบาลหารายได้ให้สอดคล้องกับรายจ่ายในอนาคตไม่ได้ จึงอยากกันไว้ดีกว่าแก้”นายพิธา​ ระบุ

ระเด็นที่ 3 ที่ท่านรู้สึกว่าการอภิปรายทำลายความรู้สึกของผู้อาวุโส พาดพิงให้เกิดความเสียหาย นายพิธาตอบว่า ขอยืนยันในเจตนาและความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีเจตนาในการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เพื่อทำลายความรู้สึก ยืนยันว่าเคารพประชาชนทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือประชาชน โดยเฉพาะผู้อาวุโสในช่วงวิกฤติสังคมสูงวัยที่ตนต้องการที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น​

“ขอขอบคุณทุกข้อท้วงติง คำแนะนำ และต้องขออภัยหากการทำหน้าที่ผู้แทนฯ ของผมทำให้ท่านกังวลใจ เสียใจ หรือเสียความรู้สึก ก่อนอภิปรายนั้น ผมพอทราบว่ามีความเสี่ยงในการพูดเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าควรพูดตั้งแต่ตอนนี้ แทนที่จะไปพูดในอนาคต เพราะความเป็นห่วงสถานการณ์ งบประมาณ โดยเฉพาะรายได้ของเราในอนาคตที่อาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอายุหรือสาขาอาชีพอะไร ตอนนี้เรายังมีเวลาสามารถมาระดมสมองช่วยกันก่อนจะสายเกินแก้ ขับเคลื่อนประเทศไทยของพวกเราทุกคนไปด้วยกันครับ” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ