ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ระบุข้อความว่า
อดีตรองนายก อบต.วังน้อย จ.อยุธยา วิ่งโล่ร้องศรีสุวรรณตรวจสอบผู้บริหาร-สภา อบต.มีมติเห็นชอบข้อบัญญัติงบประมาณโดยไม่มีการประชุมจริงทำได้ด้วยหรือ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า มีอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังน้อย (อบต.วังน้อย) ได้เดินทางมาร้องเรียนพร้อมมอบพยานหลักฐานยืนยันว่า การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลวังน้อย เพื่อพิจารณาข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตาม พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล 2537 และอาจขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น 2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) 2554 และเชื่อว่ามีการจัดทำเอกสารรายงานนายอำเภอวังน้อยอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก สภาฯอบต.วังน้อยได้มีการเรียกประชุมสภาฯสมัยสามัญ สมัยที่ 3 ประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 10-24 สิงหาคม 2565 เพื่อพิจารณาข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยเมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบและรับหลักการในวาระ 1 หลังจากนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสามัญเพื่อแปรญัตติให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน โดยเริ่มการแปรญัตติในวันที่ 18-19 ส.ค.65 แต่ปรากฏว่ามีการประชุมเพียงวันเดียวคือวันที่ 18 ส.ค.65 สภาฯกลับแถลงว่าคณะกรรมการแปรญัตติเห็นคงไว้ตามร่างเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ และในวันดังกล่าวได้พิจารณารวบรัดในวาระ 3 โดยให้ความเห็นชอบข้อบัญญัติดังกล่าวเป็นเอกฉันท์ แต่กลับจัดทำรายงานการประชุมว่าที่ประชุมสภาฯว่าให้คว่ามเห็นชอบข้อบัญญัติในวันที่ 23 ส.ค.65 ทั้งๆที่ไม่มีการประชุมจริง
หลังจากนั้น ผู้บริหารและสภา อบต.วังน้อย ได้ร่วมกันจัดทำเอกสารรายงานการประชุมอันเป็นเท็จแจ้งต่อนายอำเภอวังน้อย เพื่อให้นายอำเภอใช้อำนาจตาม ม.67 แห่ง พรบ.สภาตำบลฯ2537 และแก้ไขเพิ่มเติม เห็นชอบให้ประกาศใช้ข้อบัญญัติดังกล่าวตามที่เสนอ โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด ซึ่งต่อมานายก อบต.วังน้อยได้ใช้อำนาจตาม ม.87 วรรคสาม และ ม.71 วรรคสาม แห่ง พรบ.สภาตำบลฯ 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 7) 2562 ออกประกาศใช้ข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ผ่านมานี้เอง
การกระทำดังกล่าวของสภาฯ อบต.วังน้อย นายกฯ อบต.วังน้อย และนายอำเภอวังน้อย อาจเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือกระทําการอันเป็นความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือตามกฎหมายอื่น ซึ่งกรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจักได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น และ รมว.กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป และหากเรื่องดังกล่าวมีการลูบหน้าปะจมูกกันแล้วไซร้ สมาคมฯจะได้ยื่นให้ ป.ป.ช.ไต่สวน สอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด