ฟ้า คนสนิทครอบครัวครูปรีชา เผย ครูเป็นคนดีและไม่ผิด ถ้าผิดก็เพราะไม่ระวังจนทำลอตเตอรี่หาย จนกลายเป็นจำเลยสังคม และไม่มีทางสารภาพ เอาปืนมายิงเสียดีกว่า ยันมั่นใจในเจ๊บ้าบิ่น แม้ถูกเค้นหนักราวกับไปก่อการร้าย
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ทีวี ยังคงตามเกาะติด คดีหวย 30 ล้าน อย่างต่อเนื่อง ความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้ก็คือ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า ผู้เป็นเพื่อนสนิทของ ครูเมตตา ใคร่ครวญ พี่สาวของครูปรีชา และเป็นคนที่มีความผูกพันกับครอบครัวนี้ไม่ต่างจากญาติ ได้ออกมาเปิดใจว่า ถึงแม้ว่าตนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่ได้อยู่ในฐานะพยาน เพราะในวันที่ครูปรีชาซื้อลอตเตอรี่นั้น ตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่ตนรู้ว่าครูบริสุทธิ์ และได้ตามไปให้กำลังใจตลอด โดยทุก ๆ ครั้งที่ครูปรีชาถูกเรียกตัวไปสอบสวน ตนก็ไปด้วย ซึ่งตนก็ได้รับรู้ว่าครูและพยานฝ่ายนี้ถูกเค้นอย่างหนักมาก จนมีครั้งหนึ่งที่ครูปรีชาถึงกับน้ำตาไหล ต่างก็ท้อใจไปตาม ๆ กัน เพราะก็ได้ยืนยันมาตลอดว่าครูปรีชาไม่ได้ผิด แต่ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ทำหวยหาย ไม่รักษาของตัวเองให้ดีกว่านี้
น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า คนสนิทของครอบครัวครูปรีชา ผู้ตามให้กำลังใจมาตลอด
นางสาวกนกพรรณ เปิดเผยว่า การที่พยานฝ่ายครูปรีชาไม่ค่อยได้ออกมาให้ข้อมูลนั้น ก็เป็นเพราะคำถามที่ถูกถามคือสิ่งที่อยู่ในสำนวนของตำรวจ จึงมองว่าควรไปสู้คดีกันที่ชั้นศาล ส่วนตัวตนไม่กังวลใจว่าพยานจะท้อจนกลับคำให้การ เพราะทุก ๆ คนก็เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ครูปรีชาก็เคยบอก “ถ้าจะให้เซ็นรับสารภาพ ให้เอาปืนมายิงเสียเลยดีกว่า” ซึ่ง น.ส.กนกพรรณ ก็รู้สึกข้องใจว่าฝ่ายลุงจรุญซึ่งเป็นคู่กรณี ได้ถูกเค้นอย่างหนักแบบนี้หรือไม่ และตนก็คิดว่า ทุกวันนี้ครูปรีชาตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว
สำหรับกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาท้าเดิมพันกับ น.ส.กนกพรรณ เป็นเงิน 2 ล้านบาท ว่ามีคลิปเสียงจากกองปราบปรามฯ ที่ยืนยันว่าครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ ซึ่ง น.ส.กนกพรรณ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนักข่าวที่รู้จักเกี่ยวกับกรณีนี้แล้ว ถ้านายอัจฉริยะมั่นใจจริง ๆ ก็ให้มาทำสัญญากันไปเลย ถ้าบทสรุปออกมาว่าลอตเตอรี่เป็นของลุงจรูญ ตนก็พร้อมจะยกเงิน 2 ล้านบาทให้ แต่ถ้าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา นายอัจฉริยะก็ต้องเป็นฝ่ายถอนตัวไป ส่วนในเรื่องที่นายอัจฉริยะได้ออกมาให้ข่าวว่า เจ๊บ้าบิ่นกลับให้การ อีกทั้งออกมาไลฟ์สดท้าตนอีกรอบนั้น น.ส.กนกพรรณ กล่าวว่า นายอัจฉริยะพูดจามั่วซั่ววกวน ไล่ลำดับเหตุการณ์ผิด และพูดไปเรื่อยทั้งที่ไม่รู้อะไร
นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น พยานปากสำคัญของฝั่งครูปรีชา
ส่วนเรื่องเจ๊บ้าบิ่นกลับคำให้การนั้น น.ส.กนกพรรณ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลแล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากสอบปากคำเสร็จ เจ๊บ้าบิ่นก็พูดกับตนว่าถูกสอบหนักเหมือนไปก่อการร้าย แต่ตนก็มั่นใจในตัวเจ๊บ้าบิ่นมาก และเมื่อตนเห็นว่า นายอัจฉริยะปิดเพจเฟซบุ๊กหนี ตนก็ได้หัวเราะในใจว่า “มันไปแล้ว”
นอกจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นที่ เพจเผือกเรนเจอร์ บนเฟซบุ๊ก ได้ออกมาโพสต์แฉ น.ส.กนกพรรณว่า ทำตัวเป็นคนประสานงานกับสื่อ และช่วยสร้างสถานการณ์ให้ครูปรีชา โดยแลกกับค่าจ้าง 3 แสนบาท และส่วนแบ่งอีก 10 เปอร์เซ็นต์หลังคดีจบ ซึ่ง น.ส.กนกพรรณ ก็ได้ยืนยันหนักแน่ว่า เรื่องที่ตนสร้างสถานการณ์นั้นไม่เป็นความจริง เพราะครูปรีชาเป็นคนดี อีกตนก็ไม่ได้อยากออกสื่อ เพราะรู้ว่าตนต้องโดนด่า แต่ตนก็รู้สึกเฉย ๆ กับเรื่องนี้ ส่วนใครที่ออกมากล่าวหาตน ก็อยากให้เอาหลักฐานมายืนยัน ตนก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และฟ้องกลับแน่นอน
ส่วนเรื่องที่ครูปรีชาให้ทุนการศึกษากับลูกของลุงจรูญนั้น น.ส.กนกพรรณ กล่าวว่า เคยได้รับจริง โดยเป็นทุนต่อเนื่องให้จนจบการศึกษา แต่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ก็มั่นใจว่ามีการให้จริง ๆ สามารถไปตรวจสอบกับทางโรงเรียนได้ และ น.ส.กนกพรรณ ก็ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “อยากให้สังคมมองในมุมของครูบ้าง ให้ครูได้พูดบ้าง ใครพูดจริง ใครพูดโกหกลงพื้นที่กัน สิ่งที่พูดล้วนมีหลักฐาน มีที่มาที่ไป”
Cr.kapook.com
สำนักข่าววิหคนิวส์