ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ฟ้า ฟ้องกลับ อัจฉริยะ !! กลั่นแกล้ง ป้ายสีทำคลิปโป้จนถูกออกหมายจับ หลังอัยการ-ตร.ชี้ไม่ผิด

#ฟ้า ฟ้องกลับ อัจฉริยะ !! กลั่นแกล้ง ป้ายสีทำคลิปโป้จนถูกออกหมายจับ หลังอัยการ-ตร.ชี้ไม่ผิด

14 June 2018
1212   0

จากกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นางสาวกนกพรรณ หมวกไสว หรือฟ้า และ ติ่ง ภรรยาของ ศร นักร้องชื่อดัง เพื่อนนำภาพอนาจารย์มาเผยแพร่ในคอมพิวเตอร์ จนมีการออกหมายจับนางสาวกนกพรรณ และบุกค้นถึงห้องพักจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งประเทศ ปรากฎว่าอัยการและตำรวจได้มีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ เพราะมิได้กระทำความผิดดั่งที่นายอัจฉริยะกล่าวหา

ก่อนหน้านี้ ติ่ง ภรรยาของ ศร นักร้องชื่อดัง ได้ไปฟ้องร้องต่อศาลสมุทรปราการ เอาผิดนายอัจฉริยะ ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง ชี้มีมูลแล้ว กรณีนายอัจฉริยะหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ล่าสุด

นางสาวกนกพรรณ หมวกไสว หรือฟ้า ได้ยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมเหยืออาชญากรรม ต่อศาลอาญา

โดยข้อความในคำฟ้องระบุว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้นำข้อความอันรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาไปแจ้ง แก่ร้อยตำรวจเอกปิยุคพัฒน์ สุขสาร พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามอาชญากรรมการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเทคโนโลยี ว่าเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ นาฬิกา ได้เปิดคลิปดูวิดีโอใน www.youtube.com ได้พบวิดีโอชื่อตัวตนของโจทก์ ซึ่งเป็นน้องสาวครูปรีชา ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๑ พบว่าโจทก์กับนางสาวปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์ ว่าโจทก์ถือโทรศัพท์มือถือซึ่งมีภาพโชว์หน้าอกของบุคคลไม่ทราบชื่อในช่วงเวลา ๑๐.๔๑ – ๑๒.๕๑ ในเว็บไซต์ดังกล่าว จำเลยจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนขอให้ดำเนินคดีกับโจทก์และพวก

ว่าร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะเป็นการลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๔(๔) อันเป็นความผิดตามความพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๖๐ ทำให้พนักงานสอบสวนหลงเชื่อจำเลยว่าเป็นความจริงจึงได้ออกหมายจับโจทก์และนำโจทก์มาผลัดฟ้องฝากขังที่ศาลนี้ รายละเอียดปรากฏตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ ๑ คำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ ๒ คำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ ๓ คำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ ๔ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑ ถึง ๔ นั้นเป็นความเท็จ

ความจริงนั้น จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นและไม่ใช่เป็นผู้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใน Youtube เผยแพร่ภาพลามกตามที่จำเลยกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน แต่จำเลยมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับโทษทางอาญาเนื่องจากจำเลยไม่พอใจโจทก์ว่าเป็นกองเชียร์ครูปรีชา ใคร่ครวญ คดีหวย ๓๐ ล้าน เพื่อแกล้งโจทก์ให้ได้รับโทษหรือรับโทษหนักขึ้นและต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้จำเลยได้ยอมรับความจริงกับนายกรรชัย หรือนายหนุ่ม กำเนิดพลอย และประชาชนทั่วประเทศว่า เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑ จำเลยได้ออกอากาศในรายการโหนกระแส ซึ่งเผยแพร่ออกอากาศทางทีวีช่อง ๓ ทั่วประเทศ ว่า

“แท้จริงแล้วจำเลยเป็นฝ่ายกู้ข้อมูลจากระบบ Youtube ขึ้นมาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับโจทก์”

แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลเนื่องจากพนักงานอัยการกอง ๕ เห็นว่าพยานหลักฐานของจำเลยที่แจ้งของจำเลยที่แจ้งความต่อแจ้งความต่อพนักงานสอนสวนนั้นยังไม่พอฟ้องจึงไม่ได้ยื่นฟ้องโจทก์ตามระยะเวลาของกฎหมายกำหนด จึงปล่อยตัวจำเลยไปตาม เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๕เหตุเกิดที่กองบังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และตำบลสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง ความผิดเกี่ยวพันธ์กันคดีนี้โจทก์ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพราะประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยด้วยตนเองโดยศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้อง 3 กันยายน 2561 เวลา9.00น.

สำนักข่าววิหคนิวส์