16พ.ค.61 ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงโครงการไทยนิยม ยั่งยืนทั่วประเทศ ที่ขณะนี้ดำเนินการเข้าสู่ครั้งที่ 4ว่า จาก 3 ครั้งที่ผ่านมา ในด้านการลงไปสร้างความเข้าใจกับประชาชน ได้ดำเนินการ อาทิ ในเรื่องสัญญาประชาคมปรองดอง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประชาธิปไตย รวมถึงหลักองค์ความรู้ต่างๆแล้ว สำหรับการดำเนินการในครั้งที่ 4 จะนำไปสู่การปฏิบัติ เป็นสิ่งที่เราอยากให้ทำ อย่างเช่น ปัญหายาเสพติด ประชาชนสามารถร่วมกันประชุมหมู่บ้าน ทำให้เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด หรือการตื่นตัวในด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยึดเอาเป็นแบบอย่าง
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ขณะที่ในด้านการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนในโครงการไทยนิยมฯ ที่จะมีงบประมาณลงไปในพื้นที่ ขณะนี้พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2561 ได้บังคับใช้แล้ว ก็จะมีการให้ประชาชนยืนยันให้มั่นใจว่าความต้องการตามแผนงานโครงการ ที่เสนอขึ้นมา ดีหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ จากนั้นจะมีการตรวจสอบ เรียงลำดับตามขั้นตอนการใช้งบฯ และการบริหารโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้ภาคเอกชน กับภาคการศึกษาในพื้นที่ ลงไปช่วยกันดูแผนงานโครงการจากความต้องการของประชาชน ว่าดีหรือเหมาะสมหรือไม่ด้วย
“สำหรับขั้นตอนการบริหารโครงการ การทำสัญญาต่างๆ การใช้งบประมาณ จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการหมู่บ้าน และประชาชน ทางภาคราชการจะไม่เกี่ยว พอเงินลงไปในพื้นที่ ก็จะไปเข้าบัญชีของกรรมการหมู่บ้านเลย เพราะฉะนั้นเขาจะต้องช่วยกันดูในเรื่องของความโปร่งใส ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
รมว.มหาดไทย กล่าวด้วยว่า หากดำเนินการครบทั้ง 4 ครั้งแล้ว ก็คงจะต้องตามมาด้วยการประเมินผล แต่ประเด็นหลักคือ เราไปให้ความรู้ประชาชน ก็เหมือนกับการสอนลูกหลาน คงไม่ได้สอนกันครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องทำต่อเนื่อง โดยตั้งใจจะใช้กลไกกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็น ท้องที่ ท้องถิ่น ช่วยกล่อมเกลาให้ความรู้ประชาชนไปเรื่อยๆ ในลักษณะของประชาคมหมู่บ้าน ส่วนแผนงานโครงการ เมื่อเป็นความต้องการของประชาชน เราไปเปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัปดาห์หน้า ตนจะชี้แจงให้ที่ประชุมทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ประชาชนขอมาจากพื้นที่ว่ามีอะไรบ้าง อย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐาน น้ำ การเกษตร ที่ส่วนใหญ่เป็นความต้องการประชาชน
สำนักข่าววิหคนิวส์