ข่าวประจำวัน » #มวยออกอาการ ! หน.เพื่อไทยปัดส่งสส.ช่วยม๊อบ อ้างแค่สังเกตุการณ์

#มวยออกอาการ ! หน.เพื่อไทยปัดส่งสส.ช่วยม๊อบ อ้างแค่สังเกตุการณ์

15 August 2020
641   0

15 ส.ค.63 –  เวลา 09.00 น. ที่ โรงแรมรามาการ์เดน ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีการจับกุม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หนึ่งในแกนนำนักศึกษา ว่า เรื่องนี้ต้องไปดูที่ข้อกฎหมายก่อน แต่กังวลว่าอาจจะเป็นการตอบโต้กันหรือไม่ เพราะนายพริษฐ์  ก็เป็นผู้ที่เคลื่อนไหวอย่างหนักช่วงที่มีการจับกุมแกนนำนักศึกษาก่อนหน้านี้ หากมีการจับกุมผู้ที่มีลักษณะเช่นนี้ก็มีหลายคน ทำไมจึงเจาะจงจับกุมนายพริษฐ์  จึงต้องดูว่าการจับกุมตามข้อหาความผิดอาญามาตรา 116 อยู่ในขอบข่ายหรือไม่ แต่เมื่อมีหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการ ซึ่งภาครัฐต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายให้ถ่องแท้ แต่ความรู้สึกประชาชนมีความสำคัญเขาอาจจะมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนเป็นห่วงตรงนี้

นายยสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตก็เป็นลักษณะคล้าย ๆ เช่นนี้ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น  และตามที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เคยรับปากไว้ว่าจะรับฟังกลุ่มนักศึกษาบ้าง แต่การกระทำยังไม่เกิด ตำรวจเขาก็ดำเนินการไป ตนไม่ทราบว่าเบื้องลึกเป็นอย่างไร อาจจะมีการกระซิบสั่งกันหรือไม่ เราไม่รู้  หากพูดไปก็ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง จึงอยากให้ระมัดระวัง แต่ขออย่าได้มองผู้เห็นต่างป็นศัตรู เพราะจะทำให้เกิดปัญหาบานปลายในอนาคต แล้วจะยุ่งเหยิงกันไปหมด ดังนั้น เมื่อมีการชุมนุม รัฐบาลอย่าไปคิดว่าผู้เห็นต่างว่าเป็นศัตรู ทำอย่างไรก็แล้วแต่ให้สถานการณ์เรียบร้อยเบาบาง และรับฟัง ถ้านายกฯ เปิดรับฟังทุกคนก็เชื่อท่าน ถ้าอยากรู้กลุ่มนักศึกษาคิดอย่างไรก็ควรเปิดรับฟัง ไม่ใช่อยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปสังเกตการณ์การจับกุมนายพริษฐ์นั้น ไปในฐานะคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ที่มีการตั้งขึ้นมา

เมื่อถามว่าที่ส.ส.เพื่อไทยไป เพื่อสังเกตการณ์หรือสนับสนุน นายสมพงษ์ กล่าวว่า การสนับสนุนคงไม่ใช่ แต่เราเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ก็อาจจะไปช่วยประกันตัวให้เขาออกมาแก้ต่าง และการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้คงต้องส่งสัญญาณกันในสภาให้ประชาชนได้รับทราบ.