เผยไทยติดอันดับ 4 ใน 10 ตลาดที่สร้างรายได้สูงสุด ล่าสุดเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ฉลอง 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-มาเลเซีย
แหล่งข่าวจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมาเลเซีย และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.78 ล้านคน เดินทางมายังชายฝั่งของมาเลเซีย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32.7% โดยคิดเป็นรายได้ 3.5 พันล้านริงกิต หรือประมาณ 2.75 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 4 ใน 10 ประเทศที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาเลเซีย
สำหรับช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (เดือนมกราคม-พฤษภาคม) มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวมาเลเซียทั้งหมดประมาณ 813,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 โดยแบ่งเป็นกลุ่มตลาดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว การท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน การท่องเที่ยวเชิงศาสนา และผู้ชื่นชอบการช็อปปิ้ง
แหล่งข่าวรายเดิมยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดการท่องเที่ยวมาเลเซียได้เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟไปมาเลเซีย เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวมาเลเซีย การรถไฟแห่งประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-มาเลเซียในปีนี้
การเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟครั้งนี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์แพ็กเกจท่องเที่ยวใหม่จากบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในภาคใต้ของประเทศไทย โดยใช้เส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศมาเลเซียเดินทางจากหาดใหญ่สู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามทางใต้ของประเทศไทยระหว่างทางเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย
“แพ็กเกจนี้ไม่เพียงมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการท่องเที่ยว แต่ยังรวมที่พัก มื้ออาหาร ตลอดจนกิจกรรมหลากหลายและการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก ซิตี้ทัวร์ และไนต์ทัวร์ โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 4,451 บาท” แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวมาเลเซียยังถือโอกาสประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น “Kuala Lumpur International Craft Festival 2017” หรืองาน KLICF 2017 ครั้งที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน 2560 โดย Malaysian Handicraft Development Corporation (MHDC) ที่ปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยในงานดังกล่าวจะมีตลาดจำหน่ายสินค้างานฝีมือจากศิลปินทั่วโลกที่มารวมกันภายใต้แนวคิด “Crafts Unite People”
อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแสดงด้านวัฒนธรรม การสาธิตวิธีการผลิตงานฝีมือ และนิทรรศการแสดงสินค้าจากศิลปินทั้งในประเทศมาเลเซียและศิลปินต่างชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการออนไลน์ทั่วโลกที่จะนำสินค้างานฝีมือมาร่วมจัดแสดงและจัดจำหน่ายกันอย่างคึกคัก โดยจะมีช่างฝีมือและผู้ประกอบการจาก 44 ประเทศมาร่วมงานด้วย อาทิ อาร์เจนตินา จีน อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย มอริเชียส เป็นต้น
Cr.ประชาชาติ
กนกจอม เอกวงศ์กุล