นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ถึงการตั้งคำถาม 6 ข้อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเพียงการตั้งคำถามถึงประชาชนว่าคสช.จะทำอย่างเช่นนั้นได้หรือไม่ ยังไม่ได้บอกว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดหรือไม่
“ความจริงทุกคนแต่ละคนก็มีสิทธิสนับสนุนใครก็ได้ ตราบเท่าที่ยังไม่ยุ่งกับการหาเสียง ประชาชนทุกคนก็มีสิทธิที่จะชอบหรือไม่ชอบใครได้อยู่แล้ว คสช.ก็เป็นคนหนึ่ง ถ้ามาถามผมว่าผมสนับสนุนอะไร ในใจผมก็ต้องมี เพียงแต่ผมจะพูดหรือไม่พูดก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่มีพรรคการเมืองที่จะให้เลือก ผมก็กากบาทช่องที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนเหมือนกัน” นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า หาก คสช. เปิดตัวไปสนับสนุนพรรคการเมืองใด จะเป็นการสร้างความได้เปรียบเสียบเปรียบทางการเมืองหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เวลาคนเป็นนายกฯไปสมัครเลือกตั้งได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ ก็ได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนกัน เราต้องไม่ไปคิดในทำนองว่า จะทำให้สิทธิธรรมดาของคนหายไป ส่วนจะทำอย่างไรได้มากหรือน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องพิจารณาน่าดูตราบเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่ในแง่ของธรรมาภิบาลหรือจริยธรรม จะขัดกับหลักนี้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เหมือนเวลาเลือกตั้งภายหลังหมดวาระรัฐบาล และรัฐบาลกลับลงไปเลือกตั้ง พวกก็ต้องบอกให้เลือกตัวเองเพื่อจะได้กลับมาทำงาน แบบนี้ถามว่าฝ่ายค้านเสียเปรียบหรือไม่ ในเชิงการเมืองอาจจะบอกว่าเสียเปรียบก็ได้ แต่ว่าจะทำอย่างไรได้
เมื่อถามว่า มาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เข้าไปกระทำการใดที่จะเป็นการควบคุมพรรคการเมือง หมายความเฉพาะการไม่ให้คนนอกเข้าไปครอบงำเท่านั้นใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ใช่ จะไปครอบงำพรรคการเมืองไม่ได้ หรือ จะไปสั่งให้ใครเลือกพรรคนี้ เพราะพรรคนี้จะทำตามคำสั่งตนเอง แบบนี้ทำไม่ได้ เพราะเป็นการครอบงำแล้ว แต่หากไปบอกว่าคุณเลือกพรรคนี้เพราะพรรคนี้ดี อย่างนี้ก็ไม่เป็นไร
“ก็เป็นสิทธิของคนทุกคนที่จะสนับสนุนได้ แต่ท่านก็ยังไม่ได้บอกว่าท่านจะสนับสนุนใคร ท่านแค่ถามประชาชนว่าถ้าคสช.จะสนับสนุนพรรคการเมืองได้หรือไม่เท่านั้น ความจริงก็ไม่ต้องถามก็ได้ แต่ท่านก็คงอยากรู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร”
นายมีชัย กล่าวด้วยว่า เราไม่ได้เขียนกฎหมายถึงขนาดตัดสิทธิจนทุกคนพูดกันไม่ได้ เวลาจะเลือกตั้งในอนาคต สื่อสังคมออนไลน์จะเป็นตัวชี้นำได้มาก ใครชอบใครก็อยากให้อีกคนชอบเหมือนกันด้วย ก็เป็นของธรรมดา แต่ต้องไม่ใช้อำนาจรัฐในทางที่จะไปบังคับใคร อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วส่วนตัวไม่ทราบว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำถามแบบนั้นมีนัยทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่
“ไม่รู้นะ เท่าที่ผมคุยๆกับท่านบ้าง ท่านก็ไม่ได้อยากเป็นอะไรต่อ” นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความห่วงหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำไว้อาจจะไม่ได้รับการสานต่อ นายมีชัย กล่าวว่า ความห่วงอันนั้นก็คงมีทุกคน ทำงานแล้วยังไม่เสร็จ แต่ห่วงถึงขนาดที่จะลงไปทำเองหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าคนเราพอถึงจุดหนึ่งมันก็หยุดก็หยุด
เมื่อถามว่า คำถามของนายกฯที่ออกมานั้นจะไม่เป็นการชี้นำเรื่องการสืบทอดอำนาจ นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่หรอก ถ้าท่านจะสืบทอดอำนาจขึ้นมาจริงแล้วจะมาถามทำไม
สำนักข่าววิหคนิวส์