มีแน่ ปรับครม.
จัดทัพครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
จับตา’บิ๊กตู่’ตั้งผู้ประสานแก้เกม
ปรับคณะรัฐมนตรี ยังไงๆก็มีแน่นอน เพียงแต่จะเมื่อไหร่ และปรับใครบ้างเท่านั้น
เหตุผลหลายประการครับ ตั้งแต่อย่างน้อยมีคนมาช่วยงานบิ๊กตู่และรัฐบาลเพิ่มอีก 2 คน ไม่ต้องให้คนที่มีอยู่แล้วต้องแยกร่างหรือวิ่งรอกเพิ่ม
สอง คือสนองความต้องการของนักการเมืองที่ร่ำๆเรียกร้องให้ปรับครม.ทดแทน ร.อ. ธรรมมนัส และนฤมล เสียที อย่างน้อยก็เพื่อให้ตน(หรือบางคนหรือหลายคน)ได้ลุ้นตำแหน่งรัฐมนตรีอีกสักครั้ง หลังจากรับประทานแห้วจนจนอิ่มแปล้ เพราะนี่เป็นรถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ ฉะนั้น ขอมีเกียรติประวัติให้กับตนเองและวงศ์ตระกูลหน่อยเถอะ ว่าเคยเป็นรัฐมนตรีกับเขาด้วย
สาม คือการหาตำแหน่งรองรับคนสำคัญที่จะมาช่วยงานหรือเป็นมือประสานทางการเมืองให้ เพราะหากไม่มีตำแหน่ง หรือเกษียณจากตำแหน่งหัวโขนแล้ว คนอื่นก็ไม่เกรงอกเกรงใจเหมือนเมื่อก่อนอีก ต้องหาตำแหน่งให้นั่ง อย่างคนเพิ่งเกษียณบางคนที่มีข่าวจะได้ลุ้นนั่งรมต.เพื่อรับภาระที่รออยู่เบื้องหน้า
แล้วก็เพราะสาเหตุหลากหลาย และคนอยู่ในข่ายจะได้นั่งเก้าอี้ในครม.มีพะเรอเกวียน จึงยิ่งทำให้การลุ้นการแย่งชิงต้องลุ้นถึงฎีกา
ยังไม่นับข่าว สุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ กับดอน ปรมัสถ์วินัย จะพ้นจากตำแหน่งอีกต่างหาก ทั้งที่เป็นโควต้าพล.อ.ประยุทธ์ และนายกฯเป็นคนเลือกเองกับมือ จึงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการปล่อยข่าวเพื่อโยนหินถามทาง
เพราะบิ๊กตู่ ไม่ใช่คนที่จะทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะคนที่เขาดึงมาช่วยงาน
การปล่อยข่าว บิ๊กป็อกจะนั่งควบรองนายกฯจากเดิมนั่งมหาดไทยอยู่ก่อน น่าจะเป็นความพยายามหวังขยายผลเรื่อง’ปัญหาใน 3 ป.’ ทั้งที่ป.ป้อม ย้ำหลายครั้่งถึงความแนบแน่นของ 3 ป. ขณะที่ป.ประยุทธ์ ก็พยายามน้ำภาพความสัมพันธ์ 3 ป.ทั้งก่อนและหลังประชุมครม.ที่ผ่านมา
หากขยับ ป. ป็อกขึ้นเป็นรองนายกฯอีกคน ก็ซ้ำซ้อนกับป.ป้อม ที่นั่งเก้าอี้รองนายกฯอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่มีเหตุและความจำเป็นใดๆ นอกจากหวังให้ชนและเป็นปัญหาค้างคาใจต่อป.ป้อม
หมากหวังเเสี้ยมเกมนี้ มีข่าววงในว่า บิ๊กตู่เตรียมวิธี’ดัดหลัง’ไว้แล้ว โดยแทนที่จะตั้งพรรคการเมืองคู่ขนานกับพปชร.อย่างที่เป็นข่าวมาตลอด แต่กลับจะใช้ คนในเครือข่าย 3 ป.เข้าไปนั่งภายในพปชร.เพื่อทำหน้าที่ประสานระหว่าง บิ๊กตู่กับพปชร.โดยตรงอีก 1 คน เหมือนกับที่ ป.ป้อม ใช้บริการ พล.อ.วิชญ์ เข้าไปตีกันในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค แทนที่จะปล่อยให้เป็นเก้าอี้ของฝ่ายการเมืองอย่างที่คาดการณ์ตั้งแต่แรก
เป็นวิธีแก้ลำไม่ให้ฝ่ายการเมืองยึดอำนาจและสร้างบารมีในพรรค เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองกับบิ๊กตู่และรัฐบาล เหมือนเหตุการณ์อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่ว่านี้ จะมีความสำคัญ และจะทำควบคู่กับการปรับคณะรัฐมนตรีที่จะต้องมีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ประจักษ์ มะวงศ์สา