3 นิ้วมาแล้ว! ตำรวจอนุโลมให้แสดงออก ยันไม่มีการใช้กำลัง
19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 17:41 น
◽ 19 ก.พ.64 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น.ที่ถนนสามเสน ฝั่งขาเข้าตรงข้ามหน้าบริษัทบุญรอด ม็อบเฟสได้นำรถเวทีเครื่องเสียงขนาดใหญ่เข้าติดตั้งโดยกินพื้นที่ 2 เลน ขณะที่มวลชนก็เริ่มเข้าพื้นที่ทำให้การจราจรเริ่มหนาแน่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เริ่มการปิดการจราจรฝั่งขาเข้าถนนสามเสน ตั้งแต่แยกเกียกกายไปจนถึงแยกบางกระบือ โดยให้รถวิ่งสวน 2 เลนเท่านั้น
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เป็นระเบียบเจ้าหน้าที่ได้ให้รถเวทีของม็อบเฟสติดตั้งห่างจากอาคารรัฐสภา 150 เมตร โดยมีกองกำกลังควบคุมฝูงชล จำนวน 3 กองร้อย คุมพื้นที่พร้อมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คันและรถน้ำอีก 1 โดยมีการจัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนอยู่ด้านหลังรถเครื่องเสียงมีแผงเหล็กกั้นในบริเวณที่กำหนด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ากองกำลังที่อยู่หน้ารัฐสภาเป็นเพียงการดูแลรักษาคสามเรียบร้อยเท่านั้นไม่มีการสลายการชุมนุม
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยว่าตำรวจมีหน้าที่
1.ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่กระทบต่อประชาชนโดยรวม
2. การป้องกันเหตุร้ายหรือมือที่สาม ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
3. จัดกำลังตำรวจดูแลประชาชนอื่นๆที่มีบ้านพักอาศัยหรือสัญจรไปมาในบริเวณ
การชุมนุมวันนี้เจ้าหน้าที่ได้อนุโลมให้แสดงออกเป็นถอยคนละก้าว แต่ยังผิดข้อ พรก.ฉุกเฉินและพรบ.ควบคุมโรค เจ้าหน้าดำเนินการตามกฎหมายตามและระเบียบไม่ได้ใช้ความรุนแรง ส่วนกำลังก็ใช้เท่าที่จำเป็นที่เตรียมกำลังไว้ก็เพื่อเหตุที่ไม่คาดคิด ถ้าผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบเรียบร้อยเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง.
https://www.thaipost.net/main/detail/93582
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ ชั้น 6 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เรียกประชุม ส.ส.พรรค พปชร. เป็นการด่วน โดยมีรัฐมนตรี ส.ส. และแกนนำของทุกกลุ่มในพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีข่าวว่าจะได้รับคะแนนไว้วางใจน้อยที่สุด 2 คน คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โดยพล.อ.ประวิตร ได้ใช้เวลาพูดคุยกับที่ประชุมไม่ถึง 10 นาที และกำชับเพียงสั้นๆ ถึงการลงมติโหวตว่า ให้ ส.ส.ลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ให้เท่ากันทุกคน และให้ ส.ส.ของพรรคหยุดประท้วง เพื่อให้เวลาเดินไปตามกรอบและจบประชุมได้ภายในคืนนี้ และลงมติได้ในวันที่ 20 ก.พ.
โดยภายหลังการประชุม บรรดารัฐมนตรี ส.ส. ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ต่างพูดในทางเดียวกันว่า ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการเรียกประชุมด่วนครั้งนี้ เกิดจากกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.บางส่วนจะลงมติไว้วางใจให้กับนายสุชาติน้อยที่สุด จนนายสุชาติต้องเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อสะท้อนปัญหาและขอความช่วยเหลือ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องออกมากำชับ ส.ส.ให้ลงมติให้รัฐมนตรีเท่ากัน เพราะต้องการรักษาภาพลักษณ์ของพรรค ไม่ให้เกิดความเสียหายว่าไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากเป็นพรรคแกนนำพรรครัฐบาล โดยพล.อ.ประวิตร ถามส.ส.ว่าใครมีอะไรสงสัยหรือไม่ให้ถามมา คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย และให้โหวตไปตามที่คุยกันไว้ให้สามัคคีกัน
ต่อมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงการลงมติ ว่า ไม่มีอะไร
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวเสียงแข็งกับสื่อว่า “คุณปรับเลย ปรับให้ดีนะ ผมยังไม่รู้เลย ปัดโธ่” เมื่อถามย้ำว่า รัฐมนตรีที่ได้คะแนนรั้งท้ายเกิดความกังวลว่าจะถูกปรับ ครม.ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คิดไปเองทั้งนั้น
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า การลงมติครั้งนี้ พล.อ.ประวิตรจะได้คะแนนไว้วางใจมากที่สุดเป็นครั้งที่ 2พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมกับเดินไปขึ้นลิฟท์ทันที