ม.รังสิต ลงทุนมากกว่า 40 ล้านบาท วิจัย “กัญชา” ล่าสุดพบสารซีบีเอ็น-ทีเอชซี ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งปอดในมนุษย์ในระดับหนูทดลอง เตรียมร่วม 3 รพ.วิจัยในคนต่อ พร้อมพัฒนานวัตกรรมยาเม็ดเวเฟอร์กัญชา แตกตัวในปาก ดูดซึมได้ดี ยาสเปรย์พ่นช่องปากช่วยนอนหลับดีขึ้น และวิจัยตำรับยาประสะกัญชา ต่อยอดภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย
“เราวิจัยถึงขนาดว่าเป็นข่าวดีที่สุดในโลก เพราะว่ายาของเราจะรักษามะเร็งได้ เพราะทดลองในหนูทดลองแล้ว โดยการฉีดสารมะเร็งในหนู และฉีดยากัญชาเข้าไปรักษามะเร็งหายแล้วในเชิงประจักษ์ ซึ่งมะเร็งถือเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยสูงสุด อย่างไรก็ตาม จะต้องพัฒนาต่อไปถึงในคน ซึ่งก็มีความพร้อมในการวิจัยในคนได้แล้ว โดยเรามีคณะแพทยศาสตร์ และมีโรงพยาบาลในเครือของเรา ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานติดต่อทั้ง รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตนราชธานี ที่จะทดลองยากัญชารักษามะเร็งได้ ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่ง” ดร.อาทิตย์ กล่าวและว่า เรื่องกัญชาทางการแพทย์ อยากให้รัฐบาล สนช. และข้าราชการที่มีอำนาจ ทำอะไรเพื่อประชาชนคนไทย อย่ามาทำเพื่อผูกขาดผลประโยชน์เฉพาะตัวหรือเอื้อนายทุน เราต้องการการปฏิวัติเรื่องนี้ทุกด้าน
ผศ.ดร.ภญ.สุรางค์กล่าวว่า จากนั้นจึงใช้สาร 3 ชนิดที่มีความเข้มข้นต่างๆ และวัดอัตราการรอดชีวิตของเซลล์มะเร็ง โดยพบว่า ความเข้มข้นสูงสุดของสารทีเอชซี และซีบีเอ็น เซลล์มะเร็งรอดเพียง 20-30% คือ เซลล์ส่วนใหญ่ตาย ส่วนสารซีบีดี อัตรารอดชีวิตเซลล์มะเร็งสูง 75% เรียกว่าเซลล์ยังรอดเยอะ ไม่ค่อยเป็นพิษต่อเซลล์ ดังนั้น จึงนำเฉพาะสารทีเอชซี และซีบีเอ็นไปศึกษาต่อในหนูทดลอง โดยปลูกถ่ายเซลล์มะเร็งปอดมนุษย์ในหนูทดลอง เลี้ยงหนู 2-3 สัปดาห์ จึงก้อนเกิดขึ้นในตัวหนู ซึ่งตรวจยืนยันแล้วว่า เป็นมะเร็งจริง และแบ่งหนูที่ฉีดมะเร็งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุม ให้รับน้ำเกลือ กลุ่มรับทีเอชซี และกลุ่มรับซีบีเอ็น โโยฉีดให้ทุกวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์
ภก.เชาวลิต มณฑล ผู้วิจัยยาเม็ดเวเฟอร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกัญชา กล่าวว่า สารสำคัญของกัญชาสามารถด฿ดซึมทางช่องปากโดยไม่ต้องรับประทาน จะเห็นว่าน้ำมันกัญชาที่ใช้ในใต้ดินก็เป็นแบบใช้หยดใต้ลิ้น จึงต้องการพัฒนายาเม็ดที่ส่งสารสำคัญทางเยื่อบุช่องปากได้ แต่สิ่งสำคัญคือยาจะต้องแตกตัวได้อย่างรวดเร็ว จึงจะดูดซึมและออกฤทธิ์ได้เร็ว ดังนั้น การพัฒนายาจึงนึกถึงขนมเวเฟอร์ที่เป็นชั้นๆ และหักง่าย จึงพัฒนายาเม็ดให้มีความเปราะ มีรูพรุนคล้ายฟองน้ำ จึงดูดซึมน้ำได้เร็ว ยาแตกตัวได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีของยาเม็ดเวเฟอร์ใช้ช่องปาก คือ ไม่ต้องรับประทานน้ำแล้วกลืน ช่วยให้คนไข้มะเร็งที่รับยาเคมีบำบัด เยื่อบุช่องปากอักเสบกลืนยาได้ยาก สามารถรับยาได้สะดวกขึ้น เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย
ผศ.ดร.ภญ.สุชาดา จงรุ่งเรืองโชค ผู้วิจัยผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาที่ควบคุมคุณภาพมาตรฐานระดับสากล กล่าวว่า การควบคุมมาตรฐานน้ำมันกัญชา ถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งประเทศไทย กัญชายังเป็นสารเสพติดประเภท 5 ผู้ป่วยมีการลักลอบซื้อหรือใช้น้ำมันกัญชา ส่งผลให้น้ำมันกัญชามีราคาแพง ส่วนใหญ่ที่ใช้ไม่มีการผ่านมาตรฐาน ทีมผู้วิจัยจึงได้วิเคราะห์หาปริมาณสารสำคัญทั้ง 3 ชนิด คือ ทีเอชซี ซีบีดี และซีบีเอ็น ในน้ำมันกัญชาที่สกัดได้ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณที่ถูกต้อง แน่นอน เพื่อประสิทธิผลในการรักษา ความปลอดภัยของผู้ป่วย และได้ทำการศึกษาความคงสภาพของน้ำมันกัญชาที่ผลิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ กัญชาเป็นพืชที่สามารถดูดซับโลหะหนักได้ดี ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจสอบหาปริมาณสารปนเปื้อนและปริมาณโลหะหนัก รวมถึงการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ โดยข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาคือจะต้องไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ชนิด Staphylococcus aureus ต่อน้ำมันกัญชา 1 กรัม เชื้อจุลินทรีย์ชนิด Clostridium spp. ต่อน้ำมันกัญชา 10 กรัม และเชื้อจุลินทรีย์ชนิด Salmonella spp. ต่อน้ำมันกัญชา 10 กรัม