ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ยกระดับจับม๊อบ ! นายกสั่งใช้กฎหมายทุกฉบับ

#ยกระดับจับม๊อบ ! นายกสั่งใช้กฎหมายทุกฉบับ

19 November 2020
991   0

นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ ระบุว่าสถานการณ์การชุมนุมยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการต่อผู้ชุมนุม โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับและทุกมาตราที่มี

วันที่ 19 พ.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่าในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การชุมนุมยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาความสงบสุขและสถาบันอันเป็นที่รัก รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติการกับผู้ชุมนุม โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับและทุกมาตราที่มีอยู่

ทั้งนี้ เนื้อหาฉบับเต็มของแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวระบุว่า

“จากสถานการณ์การชุมนุมในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลและทุกฝ่ายกำลังร่วมกันหาทางออกโดยสงบและสันติ บนพื้นฐานของกระบวนการตามกฎหมาย และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง แม้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ใช้ความพยายามปฏิบัติหน้าที่ ในการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการต่าง ๆ ตามหลักสากล ด้วยความระมัดระวัง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษาบรรยากาศของความรักความสามัคคี ปรองดองของทุกคนในชาติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นสำคัญ

ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีนัก และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง รวมทั้งความสงบสุขปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติ โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่ ดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่กระทำความผิด ฝ่าฝืนกฎหมาย เพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยจะดำเนินคดีต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ที่สอดคล้องกับหลักการสากล”

ที่มา https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/36935