12 พ.ค.2565 – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครสก.หาเสียงว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งจะผลักดันนโยบายเพื่อประชาชน ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลประชาชนสำคัญสุด พรรคเพื่อไทยจะผลักดันการช่วยประชาชน โดยเฉพาะนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล เพราะโควิดที่ผ่านมาประชาชนเข้าไม่ถึงการรักษาขาดยาขาดเตียง ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าการไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่ากทม.จะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกส.ก.ของพรรคหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ ใครเป็นผู้ว่ากทม. เราพร้อมทำงานกับทุกคน อยากให้เลือกส.ก.เพื่อไทยเยอะๆ เพื่อเข้าไปผลักดันนโยบาย ถ้าเรามีส.ก.ไม่มากพอ นโยบายที่เสนอไปจะทำได้ยาก และเราเป็นประชาธิปไตยไม่ว่าใครเข้ามา ส.ก.เราพร้อมทำงานด้วยอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่หาเสียงได้เห็นการตอบรับประชาชนแล้วคิดว่าจะได้ส.ก.ประมาณกี่คน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากได้มากๆแต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชน
ถามว่าโค้งสุดท้ายคะแนนของพรรคก้าวไกลอาจจะตัดกับพรรคเพื่อไทย หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ย้ำว่า เบื้องต้นตนสนับสนุนเพื่อไทยให้ส.ก.ของเราได้คะแนนเสียงเยอะๆ เพราะนโยบายที่เสนอไปมั่นใจว่าเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ ก็ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการลงพื้นที่บ่อยเป็นการซ้อมลงสนามใหญ่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร บอกว่า ไม่ ตั้งใจมาช่วยผู้สมัครส.ก.ไม่ได้หาเสียงให้ตัวเอง เพราะส.ก.ทำงานหนัก ขอให้เป็นผลงานส.ก.ไม่ใช่ผลงานตน
ถามว่าการลงพื้นที่มีแต่คนถามถึง นายทักษิณ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับอิ๊งเหมือนกัน ทั้งคุณพ่อคุณอาอิ๊ง ผูกพันสนิททั้งคู่ เจอกันบ่อยๆ เวลาใครมาถามแบบนี้ อยากจะไลฟ์หาทั้งคู่ว่า ยังมีคนให้กำลังใจ ตอนนี้เฟซบุ๊กทั้งสอง สามารถถ่ายรูปคู่กับท่านได้ด้วยเทคโนโลยีสามารถหายคิดถึงกันได้ แต่อิ๊งพอหลังเลือกตั้งเสร็จ มีเวลาว่างจะรีบบินไปหาโดยจะพาน้องธิธารไปด้วย เพราะทั้งสองท่านบ่นคิดถึง และตั้งแต่มาลงการเมืองก็ยังเป็นคนเดิม กับครอบครัวและเพื่อนๆเพียงแต่มีหน้าที่ใหม่เพิ่มขึ้นมา”
เมื่อถามว่ารู้สึกภูมิใจอะไรในความเป็นชินวัตร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ภูมิใจในสิ่งที่คุณพ่อทำในอดีต ทุกวันนี้เวลาไปที่ไหนจะได้ยินเสียงตอบรับถึงเรื่องประโยชน์ สวัสดิการที่พ่อเคยทำ ภารกิจเหล่านี้อยู่ในสายตาของตนตลอดทำให้รู้สึกภูมิใจ
“แม้พ่อจะไม่ได้อยู่ประเทศไทยมา 13 ปี แต่ประชาชนก็ยังรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่พ่อเคยทำ ในฐานะลูกสาวรู้สึกขอบคุณแทนพ่อ รู้สึกภูมิใจแทนพ่อและอา หากมีโอกาสเล็กๆ จะทำงานให้ประชาชนต่อไป”น.ส.แพทองธานกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดอย่างไรกับนักการเมืองที่เป็นผู้หญิง เธอ ยืนยันว่า ไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้ที่สัมภาษณ์อยู่ก็มีผู้หญิงทั้งนั้น ผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำได้และทุกคนก็สามารถเป็นผู้นำได้ด้วยเช่นกัน.