17 ม.ค.64 – จากกรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหนังสือถึงพระธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดกรุงเทพมหานคร ให้ดำเนินการทางปกครองคณะสงฆ์ ต่อพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยสัมภาษณ์หรือแสดงความเห็นการเมืองทางรายการทีวี ระหว่างพระมหาไพรวัลย์ วัดสร้อยทอง กับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร่วมพูดคุยในประเด็นกรณี “ห้ามพระ-เณร เอี่ยวการเมือง” โดยพบว่าสนับสนุนการชุมนุมของพระเณรปฏิรูปสถาบัน ต่อมาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะเขตบางซื่อ เจ้าคณะแขวง และรักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง เพื่อดำเนินการถวายคำแนะนำ ตักเตือนพระมหาไพรวัลย์
ต่อมา พระเซเลบในโลกโซเชียล ซึ่งขณะนี้กำลังเรียนระดับปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้เคลื่อนไหวตอบโต้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยโพสต์เฟซบุ๊กว่า ถ้าไม่ให้พูดว่ามันเป็นเรื่อง 2 มาตรฐานแล้วจะให้พูดว่าอย่างไร ครั้งหนึ่งพระรูปหนึ่งเคยได้รับคำขอร้องจากรัฐบาลให้ออกทีวีพูดสนับสนุนเรื่องค่านิยม 12 ประการ พระรูปนั้นสามารถทำได้ และไม่มีใครส่งจดหมายไปเตือนว่า ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ทีอาตมาพูดเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของพระเณรโดยตรง กลับมีจดหมายมาหาและบอกว่า ทำไม่ได้
ตกลงพระเณรในประเทศนี้อยู่ในระบบการปกครองอะไร ? ทำไมการพูดเรื่องสิทธิและเสรีภาพเพื่อปกป้องประชาธิปไตยจึงกลายเป็นสิ่งผิด ?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี กล่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทยเรื่อง ค่านิยมหลักคนไทย เพื่อประเทศไทยเข้มแข็ง ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า นโยบายการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับหลักธรรมะ ถือว่ามีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพราะเป็นจริยธรรมที่ทุกคนควรยึดถือ และประพฤติปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะฟื้นฟูค่านิยมเหล่านี้ให้กลับคืนสู่สังคมไทย
