ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ การเมือง การปกครอง ได้โพสข้อความระบุว่า ยุทธศิลป์ในการรวบอำนาจ
คำสั่งเบรค ปลดล๊อคดาว์ เพราะผู้ว่าแต่ละจังหวัดสั่งการเอง บางพื้นที่ขัดกับคำสั่งของรัฐบาลกลางในการผ่อนปรน ที่ทะลึ่งจะใช้อำนาจจังหวัดเปิดพรหมแดน ที่สำคัญประเทศไทยปกครองในรูปแบบ “ราชอาณาจักร” มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือ ราชาธิปไตย มิใช่ ปกครองระบอบสหราชอาณาจักร (ประชาธิปไตย) หรือปกครองระบอบสัมพันธรัฐ ที่จะให้รัฐปกครอง สั่งการ เองได้
การเอาอำนาจไปรวมที่ศูนย์กลาง การบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ควรทำตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาคำสั่งผิดพลาดปิดเมืองของกทม. บุรีรัมย์ ก็ประกาศ เปิด-ปิด เมืองเอง เอากทม.เป็นตัวแบบ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ลามไป พม่า ลาว เขมร ฯลฯ
การยึดอำนาจคืนแล้วให้ สปค. สั่งการเองในการผ่อนปรน หรือ ยกเลิกการผ่อนปรนนั้นถูกต้องแล้ว แต่ต้องยึดหลักเดิม การผ่อนปรนนั้น มิควรผ่อนปรนเหมือนกัน ตามที่ “นิติบริกร” เสนอมา(ใช้หลักนิติศาสตร์) เพราะในหลักยุทธศาสตร์ การเมือง การปกครองแล้ว แต่ละพื้นที่ มีพฤติกรรม ประเพณี สถานการณ์ การติดเชื้อ แนวชายแดน ที่แตกต่างกัน จึงควรพิจารณาเป็นพื้นที่ๆไป
เพราะแม้สะดวกง่ายดายในการสั่งการ ในการสั่งรวดเดียว แต่จะมีปัญหาการแพร่ระบาดในระลอกที่ 2 ที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ในหลายประเทศที่ใช้คำสั่งรวม เปิด ปิด รวมทั้งประเทศ กำลังเผชิญกับปัญหาลักษณะการใช้คำสั่ง เช่น สเปน อิตตาลี สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น
จึงเน้นย้ำการใช้คำสั่งให้รอบคอบใจเย็นๆ ยึดตามกำหนด 1 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป เพื่อทำการผ่อนปรน ส่วน ชายแดน น่านฟ้า น่านน้ำ ควรชะลอออกไปก่อน เพื่อจะได้คุมปัจจัยภายในให้อยู่หมัด จึงค่อยทะยอยแก้ปัจจัยภายนอก
เมื่อพบการแพร่ระบาดหลังผ่อนปรน ยกต่อไปให้ปิดเฉพาะจุด เช่น ร้านค้า ห้าง แต่ละแห่ง อย่าใช้อำนาจในภาพรวม จะทำให้เกิดการเสียหายในระยะกลาง และระยะยาว ทำให้กิจการที่ได้รับการผ่อนปรน จะระวังป้องกันจนเองอย่างหนัก ในการผ่อนปรนยกนี้ เพื่อมิให้กิจการของตนเองถูกปิดอีก
ข้อดีอีกประการหนึ่งในคำสั่งระยะต่อไปคือ จังหวัดใดไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จนกิจการถูกปิด จะเป็นตัวแบบ เป็นบทเรียนให้เกิดการระมัดระวัง เกิดการต่อต้านทางสังคมขึ้น ที่สำคัญคนที่ไม่เข้าใจ ต่อต้านการใช้ พรก.ฉุกเฉิน นั้น จะได้เรียนรู้ เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงความจำเป็น การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในยามวิกฤติว่าเป็นอย่างไร ใช้อย่างไร ทำไมต้องใช้
จงคำนึงเสมอว่าไวรัสจะอยู่กับเราอีกยาว จนกว่าจะมีวัคซีน ซึ่งยุโรปจะนำมาใช้ก่อนในปี 2563 กว่าจะมาถึงไทยเร็วสุดคงปลายปี หรือ ต้นปี 2564 ทำให้ต้องประคองสถานการณ์ เตรียมรับการแพร่ระบาดระลอก 2 ให้พร้อม หากปัจจัยภายในเอาอยู่ แล้วค่อยเปิดปัจจัยภายนอกทีละขั้นละตอน
หลักเหล่านี้ ไม่เคยมีประเทศใดใช้ในการบริหารประเทศมาก่อน จงภูมิใจว่านี่คือทฤษฎีการบริหารในสถานการวิกฤติ ที่มีชื่อยุทธการว่า “ไวรัสพินาศ ประชาชนพ้นภัย” เราคือตัวแบบให้อารยะประเทศได้ศึกษา ในหลักการบริหารเชิงยุทธศิลป์ ยุทธวิธีที่มีศิลปะ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นั้นเอง
“ เดินการเมืองก็เหมือนเดินหมากรุก พลาดหมากเดียวล้มทั้งกระดาน “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
30 เมษายน 2563