พันธมิตรคนสนิทของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ออกมาเตือนวันนี้ (14 เม.ย.) รัสเซียอาจจำเป็นต้องส่ง “อาวุธนิวเคลียร์” ไปประจำการในแถบบอลติกเพื่อป้องกันตนเอง หากสวีเดนและฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ฟินแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดรัสเซียเป็นระยะทาง 1,300 กิโลเมตร รวมถึงสวีเดน ออกมาประกาศว่ากำลังพิจารณาความจำเป็นในการเข้าร่วมนาโต โดยนายกรัฐมนตรี ซันนา มาริน ระบุวานนี้ (13) ว่า ฟินแลนด์จะประกาศการตัดสินใจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ดมิตรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เอ่ยเตือนวันนี้ (14) ว่า หากสวีเดนและฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกนาโต รัสเซียก็จำเป็นที่จะต้องเสริมศักยภาพป้องกันตนเองทั้งทางบก ทะเล และอากาศในแถบทะเลบอลติก เพื่อรักษาสมดุลทางทหาร
เมดเวเดฟ ยังกล่าวแบบไม่อ้อมค้อมว่า ในสถานการณ์เช่นนั้นคำว่า “ปลอดนิวเคลียร์” คงจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปสำหรับภูมิภาคบอลติก ซึ่งมีแคว้น “คาลินินกราด” เป็นเขตการปกครองของรัสเซียแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างโปแลนด์กับลิทัวเนีย
“จะไม่มีการพูดถึงสถานะปลอดนิวเคลียร์ของบอลติกอีกต่อไป สมดุลทางทหารต้องถูกรักษาไว้” เมดเวเดฟ ซึ่งเคยรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีรัสเซียในช่วงปี 2008-2012 ระบุ
“จนถึงวันนี้รัสเซียยังไม่ได้ใช้มาตรการดังกล่าว และเราก็คงจะไม่ทำ แต่หากมือของเราถูกบังคับ ก็ขอให้ทราบไว้ด้วยว่า เราไม่ได้เป็นฝ่ายเสนอก่อน” เขากล่าว
ล่าสุด อาร์วีดัส อานูเซาสกัส (Arvydas Anusauskas) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมลิทัวเนีย ได้ออกมาแถลงตอบโต้เมดเวเดฟ โดยยืนยันว่ารัสเซีย “มีอาวุธนิวเคลียร์ประจำการในบอลติกอยู่แล้ว”
อานูเซาสกัส ให้สัมภาษณ์กับสื่อ BNS ของลิทัวเนียวันนี้ (14) ว่า รัสเซียส่งอาวุธนิวเคลียร์มาประจำการที่แคว้นคาลินินกราดในทะเลบอลติก ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์ในยูเครน
“คำขู่ของรัสเซียฟังดูแปลกๆ อยู่นะ เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าต่อให้ไม่มีสถานการณ์ความมั่นคงอย่างในปัจจุบัน พวกเขาก็มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ห่างจากชายแดนลิทัวเนียแค่ 100 กิโลเมตร”
“มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ที่คาลินินกราดมาตั้งนานแล้ว ประชาคมโลกและทุกประเทศในภูมิภาคต่างรู้ดี รัสเซียใช้มันแทนคำขู่”
ด้านนายกรัฐมนตรี อินกรีดา ซิโมนีเต แห่งลิทัวเนีย ก็ยืนยันตรงกันว่า คำขู่เสริมกำลังทหารของรัสเซีย รวมถึงการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในบอลติกนั้น “ไม่ใช่เรื่องใหม่”
ที่มา : รอยเตอร์