๒ ก.ย. ๒๕๖๐ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดก้อง ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ได้โพสข้อความระบุว่า กราบขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้ผม
จากที่กรมการปกครองย้ายผมจากปลัดอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปปฏิบัติหน้าที่ ปลัดอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ระยะทาง ๑,๐๘๕ กิโลเมตร ผมจึงได้อุทธรณ์คำสั่งโดยอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ (๒) ขอทราบ ดังนี้
๑. กรมการปกครองได้เคยย้ายผมจากส่วนกลาง มาอำเภอแม่สะเรียง ได้สรุปกล่าวอ้างกับผู้ตรวจการแผ่นดิน (หนังสือด่วนที่สุด ที่ ผผ ๒๐/๑๑๗๒ ลว.๒๗ ต.ค.๒๕๕๙) ถึงการย้ายผมว่าเพื่อประโยชน์ของทางราชการ โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนขาดแคลนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และพบปัญหาการร้องเรียนเรื่องการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ การทำลายทรัพยากรป่าไม้ จึงต้องอาศัยข้าราชการซึ่งมีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถในด้านการแก้ไขปัญหา ประกอบกับ มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคเหนือ และเคยดำรงตำแหน่งในพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงใหม่ ตามลำดับ จึงเป็นการใช้อำนาจดุลยพินิจย้ายผมที่เหมาะสมและชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ผมจึงขอทราบว่าการย้ายผมไปอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบราชธานี ระยะทางไกลถึง ๑,๐๘๕ กิโลเมตร และผมไม่เคยปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงการใช้ดุลยพินิจในการย้ายผมในครั้งนี้ และเมื่อทราบจะเดินหน้าต่อไป
๒.ผมอุทธรณ์ให้แก้ไขความเดือดร้อนที่เสียหายอย่างมากซึ่งเป็นการใช้อำนาจดุลยพินิจที่มีเจตนาไม่สุจริต ให้ย้ายกลับไปอำเภอแม่สะเรียง เพื่อประโยชน์ของทางราชการตามที่กรมการปกครองได้ให้เหตุผลต่อหน่วยงานต่าง ๆ ไว้ อันเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๗๖
๓. ก่อนผมถูกย้าย กรมการปกครองได้ ตัดเงินเดือน (ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผมมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดใด ๆ (อยู่ระหว่างอุทธรณ์ต่อ กพค.) /รวมถึงกล่าวหาว่าผมกระทำผิดวินัย ที่ได้กล่าวหาผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถือเป็นบุคคลสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะ โดยไม่มีความผิดใด ๆ ทั้งที่มีการร้องทุกข์กล่าวหาผู้ว่าฯ ต่อพนักงานสอบสวนฯ เมื่อ ๒๕ พ.ค.๒๕๖๐ ความผิดฐาน ให้มีการกระทำการค้าประเวณีฯ (พ่อเล้า) ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แม้ผลทางคดีอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ฟ้องแต่เพราะพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง ทั้งที่ผู้เสียหาย/ประจักษ์พยาน ยังยืนยันอย่างหนักแน่นเพราะจำได้ดี (ทราบว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมฟ้องคดีเอง)
๔. ทราบว่าตั้งแต่ ๑๑ ก.ย.๒๕๖๐ ผมได้ย้ายให้มาปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแทบไม่เคยปรากฏมาก่อน และถึงแม้ผมจะถูกกล่าวหาจากผู้บังคับบัญชา ว่า “สมองกลวง” “เป็นโรคจิต” ทำนอกลู่นอกทาง เพราะผมได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงที่กระทำความผิด ส่งผลให้ผมต้องถูกกลั่งแกล้ง ข่มเหง รังแก อย่างไม่เป็นธรรมจากอำนาจทางบริหารโดยไม่สุจริต ถูกขับไล่ ถูกฟ้องเป็นคดี แต่ผมก็เดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป โดยเฉพาะกับผู้ด้อยโอกาสในสังคม ผมต้องขอกราบขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจผมตลอดมา
สำหรับปลัดบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ได้รับฉายาปลัดนักสู้ ที่เข้าทำการ ดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชา และทำการจับกุม ช่วยเหลือ รับเรื่องราวร้องทุกข์ในกรณีต่างๆ ที่โด่งดังคือกรณี ผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ฮ่องสอน ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งนกฮูกค้าบริการ ที่สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง เป็นต้น
สำนักข่าววิหคนิวส์