ข่าวประจำวัน » #รมควันตัวเองดับ ! หนุ่มเครียด ฆ่าตัวตายคารถเก๋ง พบยาเพียบ

#รมควันตัวเองดับ ! หนุ่มเครียด ฆ่าตัวตายคารถเก๋ง พบยาเพียบ

2 May 2022
393   0

 

เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (2 พ.ค.65) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ริมทางถนนสาย เชียงใหม่-เชียงราย พื้นที่บ้านลวงใต้ ม.8 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงได้เข้าทำการตรวจสอบร่วมกับทาง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอดอยสะเก็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย และทีมแพทย์นิติเวช ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้าสีดำ ทะเบียน จง 5xxx ชลบุรี สภาพจอดริมทาง ภายในรถฝั่งคนขับพบชายหมดสติ สภาพเอนเบาะนอน ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดประตูรถเข้าตรวจสอบ พบว่าผู้ที่อยู่ภายในรถเสียชีวิตแล้ว โดยใกล้กันบริเวณพักเท้าด้านหน้าเบาะผู้โดยสาร พบเตาอั้งโล่ สภาพมีการจุดเผาถ่าน นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบยานอนหลับ และยาแก้เครียด จึงได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรวบรวมหลักฐานที่พบในรถและร่างกายของผู้เสียชีวิต มีเอกสารหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายฤทธิ์เดช (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และหลังจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวชตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ดำเนินการประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ

ขณะที่ในส่วนของการติดตามเบาะแสของการเสียชีงิตเบื้องต้นทราบว่า นายฤทธิ์เดช ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.65) และมีคนพบเห็นรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดอยู่ริมทางในสภาพดับเครื่องตั้งแต่ค่ำคืนเวลาประมาณ 23.00 น.ของวานนี้ โดยจาการตรวจสอบทราบว่ารถยนต์ที่ นายฤทธิ์เดช ขับมานั้นเป็นรถเช่า ส่วนการเสียชีวิตนั้นสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเจ้าตัวน่าจะลงมือจุดไฟเตาอั้งโล่เพื่อลมควันตัวเองภายในรถ เนื่องจากพบร่องรอยของการจุดไปและคาดว่าก่อนหน้านั้นเจ้าตัวน่าจะกินยาแก้เครียด และยานอนหลับ โดยสาเหตุนั้นอาจจากเจ้าตัวมีความเครียดและปัญหาส่วนตัว ซึ่งภายหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เดำเนินการสืบสวน และตรวจสอบกับทางญาติผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตขณะนี้ได้นำส่งไปยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อทำการตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง