นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี กล่าวถึงขอลี้ภัยไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ว่า ไม่น่าจะสามารถกระทำได้ เนื่องจากตนมองว่ายังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะลี้ภัยได้ ซึ่งในต่างประเทศจะไม่มองในเรื่องหนีคำพิพากษาของศาล ซึ่งเป็นเรื่องขอลี้ภัย ต่างจากกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชาย ที่ถือโอกาสหลบหนีออกนอกประเทศและขอลี้ภัยในระหว่างที่กำลังมีปัญหาบ้านเมืองไม่ปกติจากการรัฐประหาร ถึงแม้จะมีการไต่สวนพยานในศาลไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่จบกระบวนการ แต่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต่างกัน และผ่านเหตุการณ์รัฐประหารมากว่า 3 ปีเเล้ว
t news – นายปรเมศวร์ ยังอธิบายเพิ่มเติมต่อว่า จะเห็นได้ว่ากรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่เหมือนรายอื่นๆ เช่นกรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีต รอง ผบช ภ.8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อรัฐบาลออสเตรเลีย ที่มีเหตุถูกคุกคามแล้วจึงหนีไปแล้วมีสำนวนไปแสดง แต่เคสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะพิพากษาอย่างไร แล้วก็ผ่านการพิจารณาคดีมาโดยตลอด
ส่วนคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น มีมูลเหตุมาจากนโยบายทางการเมืองเหตุใดถึงไม่น่าจะลี้ภัยได้นั้น นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นคดีไปแล้ว และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต่อสู้มาตลอดจนถึงแถลงการปิดคดี จนจบกระบวนการอยู่ในชั้นศาล ที่มองว่าเป็นธรรมแล้ว จึงไม่น่าที่จะยื่นขอลี้ภัยได้ เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงจะใช้วิธีการเลือกที่จะไปประเทศที่ไม่มีการขอผู้ร้ายข้ามแดน เช่น ดูไบ หรือมอนเตเนโกร
สำนักข่าววิหคนิวส์