5 กันยายน 2560
สำนักข่าวไชนาซินหัวนิวส์รายงานว่าผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของเยอรมนีลงมือปลดชนวนระเบิดขนาดยักษ์จากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกพบเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้บริเวณพื้นที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศเยอรมนี หลังจากสั่งอพยพประชาชนกว่า 60,000 คนออกจากพื้นที่
การอพยพครั้งนี้เป็นการอพยพผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดของเยอรมนีนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกเป็นต้นมา มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินมากกว่า 1,000 คนช่วยเคลียร์พื้นที่รอบบริเวณที่พบระเบิด
ภายในพื้นที่อพยพมีโรงพยาบาล 2 แห่ง บ้านพักคนชราหลายแห่ง โรงโอเปร่า
และธนาคารกลางเยอรมนีซึ่งเก็บรักษาทองคำไว้ใต้ดินเป็นมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปฏิบัติการใช้เวลาทั้งวันซึ่งนานกว่าแผนที่คาดการณ์ไว้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ประกาศให้บรรดาผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวสามารถเริ่มทยอยกลับบ้านได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน และปฏิบัติการครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในวันจันทร์
งานของเจ้าหน้าที่เทคนิคด้านระเบิดเริ่มขึ้นล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากประชาชนบางส่วนปฏิเสธที่จะอพยพออกจากพื้นที่ แม้หัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประกาศเตือนแล้วว่าแรงระเบิดอันไม่อาจควบคุมได้นั้นอาจรุนแรงจนทำให้พื้นที่ 1 ช่วงตึกของเมืองให้ราบเป็นหน้ากลองได้
ทั้งนี้ ตลอดกว่า 70 ปีหลังสิ้นสุดสงคราม แต่ละปีจะมีการค้นพบอาวุธและระเบิดที่ยังใช้การได้ในเยอรมนีมากกว่า 2,000 ตัน เนื่องจากเครื่องบินรบของอังกฤษและอเมริกันเคยทิ้งระเบิด 1.5 ล้านตันเพื่อโจมตีเยอรมนี คร่าชีวิตผู้คนกว่า 600,000 ราย
เจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีระเบิด 15% ที่ล้มเหลวไม่ได้ปะทุออกมา โดยบางส่วนฝังอยู่ใต้ดินลึกลงไป 6 เมตร
ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ระเบิดใช้ระบบพิเศษเพื่อปลดชนวนระเบิดที่ติดอยู่กับระเบิดเอชซี 4000 (HC 4000) จากพื้นที่ปลอดภัย หากปฏิบัติการล้มเหลวจะมีการใช้เทคโนโลยีวอเตอร์เจ็ทเพื่อตัดชนวน
เจ้าหน้าที่ของแฟรงก์เฟิร์ตเผยว่า ระเบิดลูกดังกล่าวถูกทิ้งลงมาโดยกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรระหว่างสงครามในปี 1939-1945
ฐิติพันธุ์ คุณดิลกมณี
สำนักข่าววิหคนิวส์