ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ การเมือง การปกครอง ได้โพสข้อความระบุว่า ระลอก2 เริ่มดีขึ้น
วันนี้วันที่ 2 แล้ว หลังจากบทความฉบับล่าสุดออกไป ไม่ได้นอนมาเต็มอิ่ม ที่มีเป้าหมาย 7 วันจบ แต่ก็รู้สึกคุ้ม สิ่งที่ออกมาสำเร็จตามเป้าหมาย เหลือเพียงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเท่านั้น ที่ต้องเร่งดำเนินการ ทั้งเงินประกันสังคม และเงินเยียวยาปกติคงไม่ถึง 2 พันราย
สิ่งเหล่านี้คงเป็นบทเรียนที่ดี ที่คงจะเข้าใจมากขึ้นว่า ยุทธการไวรัสพินาศประชาชนพ้นภัย มิใช่เป็นของฝรั่ง คิดทฤษฎีโดยคนไทย ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมอย่างเป็นระบบไว้ล่วงหน้า ทั้ง หลัก รอง เช่น หากเกิดการระบาดซ้ำ จะปิดเฉพาะจุดไม่ปิดระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ อีกต่อไป เว้นแต่ระบาดหนัก และโรงเรียน แม้สั่งปิดก็จะเรียนในระบบออนไลน์อยู่ ที่เตรียมทั้ง การเรียนการสอน ผ่านอินเตอร์เน็ต และทีวี คอยรองรับไว้แล้ว
บทเรียนราคาแพงครั้งนี้เกิดจาก ความไม่แม่นยำในยุทธศาสตร์ มองการเมือง การปกครอง แค่ตามองเห็น นำหลักคิดการบริหารปกติมาใช้ในสถานการณ์วิกฤติ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตำแหน่ง อันดับ 1 ของโลกที่ทำได้ดีมาก หายวับไปกับตา เสียเวลาไปเปล่าๆ 4 เดือน ในไตรมาศแรก
หวังว่าจะไปเจอ 4 ท่านที่ควรไปพบ ถ้าไม่ไป ไทยจะเผชิญกับการล่มสลายครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดั่งที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้เตือน และ สิงคโปร์ กำลังเผชิญ กับการตกต่ำทางเศรษฐกิจมากที่สุด จนต้องยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ ก่อนม๊อบจะออกมาบนถนน ฝรั่งเศส ครม.ลาออกทั้งคณะ หลายประเทศแก้ไขในลักษณะเดียวกัน ในยามการแพร่ระบาดอย่างหนักระลอกที่ 2
ยกนี้จะหนักกว่ายกแรกมากมายนัก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง การต่างประเทศ ถ้าพลาดนิดเดียว ก็จะล้มทั้งกระดานอย่างที่เพิ่งเผชิญ 14 วันที่เดินเกมส์พลาดหวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ดี เดินตามหลัก ยุทธการไวรัสพินาศประชาชนพ้นภัย มนุษย์เรามีหน้าที่แตกต่างกัน หมากที่อยู่ในกระดาน ย่อมมองไม่เห็นแบบคนมองนอกกระดาน มิต่างจากขนตาตัวเอง ฉันใดก็ฉันนั้น ด้วยความปราถนาดี
“ คนใกล้ มักสับสนในเหตุการณ์ คนไกลมักแจ้ง “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
15 กรกฎาคม 2563