จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยอมรับผ่านรายการโทรทัศน์เมื่อวันอังคาร (12 ก.ค.) เคยช่วยวางแผนรัฐประหารในประเทศอื่นๆ แต่โต้แย้งว่าไม่ได้มีความพยายามดังกล่าวในเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
โบลตัน ให้สัมภาษณ์กับ เจค แทปเปอร์ พิธีกรของซีเอ็นเอ็น ว่า เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นผลจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น แค่มีปัญหาจากการนำเสนอความคิดหนึ่งไปสู่คนอื่นๆ
“ในฐานะคนคนหนึ่งที่เคยช่วยวางแผนก่อรัฐประหารมาแล้ว ไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่อื่นๆ มันต้องทำงานหนักมาก” เขากล่าว
โบลตัน ซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์ ระหว่างปี 2018 ถึง 2019 ไม่ได้เจาะจงว่าเขาช่วยโค่นล้มรัฐบาลประเทศไหน แต่ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาสนับสนุนให้สหรัฐฯ ใช้กำลังทหารแทรกแซงในเวเนซุเอลา
“วันที่ 6 มกราคม ไม่ใช่เป็นการโจมตีประชาธิปไตยของเรา มันเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ระแวดระวังเพื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ มันเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต” โบลตันกล่าว
“ท้ายที่สุดแล้ว เขาปลดปล่อยพวกจลาจลที่อาคารรัฐสภา แต่ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า มันไม่ใช่การโค่นล้มรัฐธรรมนูญเพื่อซื้อเวลาเพิ่มเติม เพื่อโยนประเด็นนี้กลับไปที่รัฐต่างๆ เพื่อพยายามตีกลับประเด็นนี้” เขากล่าว
โบลตัน นักการเมืองสายเหยี่ยวผู้แข็งกร้าว เคยทำงานในกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างรัฐบาลรีพับลิกัน 3 สมัย เริ่มต้นในสมัยของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในช่วงทศวรรษ 1980
นอกจากนี้ เขายังคงดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุุช
โบลตัน ไม่เคยสำนึกผิดต่อบทบาทของเขาที่ร่วมผลักดันให้สหรัฐฯ รุกรานอิรัก และยังส่งเสียงสนับสนุนให้ทิ้งระเบิดถล่มอิหร่านและเกาหลีเหนือ เขามีแนวคิดใช้แนวทางแทรกแซงในด้านนโยบายต่างประเทศ จุดยืนที่ทำให้เขาขัดแย้งกับทรัมป์ จนกระทั่ง ทรัมป์ ตัดสินใจไล่เขาในปี 2019
ความเห็นของ โบลตัน เกี่ยวกับเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 มีขึ้นในขณะที่คณะกรรมาธิการรัฐสภาชุดหนึ่งกำลังหาข้อสรุปว่า ทรัมป์ และบรรดาคนใกล้ชิดของเขามีบทบาทหรือไม่ในการวางแผนหรือปลุกปั่นการก่อขบถรุนแรง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 140 คน
(ที่มา : เอเอฟพี)