เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่า ที่ประชุมกกต. ได้พิจารณาประกาศรับรองผลเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพิ่มเติมอีก 14 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จ. พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล 2. จ. เชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร 3. จ.สระบุรี นายสัญญา บุญหลง 4. จ.นนทบุรี พ.ต.อ. ธงชัย เย็นประเสริฐ
5.จ.ระนอง นายธนกร บริสุทธิญาณี 6. จ.อุบลราชธานี นายกานต์ กัลป์ตินันท์ 7.จ.พิจิตร พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ 8. จ.น่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์ 9.จ.เชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ และ 10. จ.แม่ฮ่องสอน นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์
11. จ. อำนาจเจริญ น.ส.วันเพ็ญ ตั้งสกุล 12. จ.ร้อยเอ็ด นายเอกภาพ พลซื่อ 13.จ. มหาสารคาม นางคมคาย อุดรพิมพ์ เป็นนายกอบจ.
โดยกกต.เห็นว่าสำนักงานกกต.จังหวัดยังดำเนินการสอบสวนเรื่องร้องเรียนไม่แล้วเสร็จและระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่เป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 60 วันนับแต่วันเลือกตั้งซึ่งกกต.ต้องประกาศรับรองการเลือกตั้ง กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้หากว่ามีการกระทำทุจริต จึงประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน แล้วจะมาพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านภายหลัง
หากมีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ก็จะเสนอศาลอุทธรณ์พิจารณา โดยถึงปัจจุบัน กกต.มีมติให้ประกาศรับรองนายกอบจ.รวมแล้ว 65 จังหวัด
อย่างไรก็ตาม กรณีของ นายพิชัย ว่าที่นายกอบจ.เชียงใหม่นั้น มีกรณีการร้องเรียนที่เป็นที่ฮือฮาเนื่องจาก ก่อนวันเลือกตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอให้ชาวเชียงใหม่ คิดถึงผลงานการสร้างพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทย ของตนเอง แล้วลงคะแนนเลือกนายพิชัยเป็นนายกอบจ. เรื่องดังกล่าว สำนักงานกกต.จังหวัด เชียงใหม่ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
ขณะเดียวกันกรณีดังกล่าว ยังทำให้เกิดการร้องเรียนต่อกกต. ขอให้พิจารณาเสนอ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการกระทำของนายทักษิณเข้าข่ายครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจการของพรรค ผิดกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งสำนักงานกกต.ก็อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอกกต.พิจารณาว่ามีมูลที่ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือไม่