วันนี้ (9 มี.ค.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็มคอต เอชดี ดำเนินรายการโดย นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ โดยนายชาดากล่าวว่า นายดนัยไม่ให้ความเป็นธรรม ส่อเจตนาจะทำให้สังคมชี้นำมาที่ตน เอาโพสต์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย มาโยงกับภาพของตน เมื่อครั้งที่เจอกับไฮโซปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ในที่สาธารณะ ในงานบวช (บุตรชายนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย) นักข่าวและผู้คนเยอะแยะ เป็นการพูดคุยปกติ ก็ยังบอกว่ามีอะไรโกหกกันอยู่เนี่ย ตนเป็นผู้ชายยังไม่กล้าไปฉี่ตรงนั้น (ท้ายเรือ) เลย มีอะไรโกหกเรื่องคนขับเรือหรือเปล่า ปอก็บอกว่าโดนหมายจับทั้งคู่แล้ว ตนจึงบอกว่า ถ้างั้นก็ดีแล้ว โดนหมายจับก็ไปให้การที่ศาลแล้วกัน คุณต้องรู้ว่าพวกคุณไปเที่ยวกัน ไม่ได้เป็นเจตนาฆ่า แล้วคนที่ไปพูดว่าแตงโม (นิดา พัชรวีระพงษ์) ไปฉี่หรือไปพูดว่าเอนเตอร์เทน เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไม่ให้เกียรติผู้ตายและไม่ให้เกียรติสุภาพสตรี
“แต่พฤติกรรมของคุณดนัย หลายครั้งที่คุณดนัยทำกับผม ผมถือว่าคุณดนัยพยายามจะเอาคำที่คุณชูวิทย์ ผมยังโกรธว่าคุณชูวิทย์พูดถึงผมเหรอ ทนายตั้ม (ษิทรา เบี้ยบังเกิด) ยังหลุดในรายการของหนุ่ม กรรชัยว่าชาดา เพราะว่าเชื่อจากที่คุณดนัยออกข่าว พอคุณเอาเรื่องคุณชูวิทย์มาเสร็จแล้วมาเอาภาพผม ผมเสียหายเป็นพิเศษ หลานผมอยู่โรงเรียนถูกเพื่อนถาม ถ้าเป็นผมเป็นแล้วประชาชนที่เลือกตั้งผม แล้วผมเป็นรองหัวหน้าพรรค พรรคจะมองผมอย่างไร สังคมจะมองผมอย่างไร ผมถือว่าคุณดนัยเจตนาใส่ร้ายผม อันนี้ผมถือว่าเราต้องเจอกัน คุณดนัยต้องขอโทษผม ถ้าไม่ขอโทษผม เราเจอกันที่ศาลแน่นอน ผมฟ้องคุณทั้งชีวิต ผมบอกเลยว่า เพราะคุณทำกับผมหลายครั้ง ถ้าเป็นผมคนเดียวถือว่า (ฟังเสียงไม่ชัด) ขอกันกินมากกว่านี้
แต่วันนี้ก็พิสูจน์มาแล้วว่า เขาว่า คุณชูวิทย์ก็ออกมาพูดว่าอย่าเดาส่ง แต่คุณไม่ได้เดา คุณทำให้คนคิด คุณเป็นนักกฎหมาย คุณก็พยายามใช้ข้อกฎหมายมาบังตัวเอง ทำให้รู้สึกได้แต่เอื้อมไม่ถึง คุณอย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้ศาลเขาดูที่เจตนา คุณทำร้าย คุณเป็นนักข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ คุณทำร้ายผมหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันหนักหนาเกิน ผมถือว่าคุณต้องออกมาขอโทษผม คุณชูวิทย์ออกมาบอกแล้ว แล้วก็ข่าวมาเมื่อคืนว่า ทางคนที่ขับเรือสารภาพ อันนี้ผมก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง แล้วถ้าเกิดมีผมโทรศัพท์คุยกับเขา หรือว่าคนใกล้ชิดผมคุยกับเขา ผมบอกได้เลยว่า ตำรวจเขาเรียกมาสอบหมด แล้วคุณดนัยยังพูดบอก อ๋อ กล้าเหรอ เหมือนท้าทายตำรวจให้มาหาเรื่องกับผม หลายครั้งที่คุณดนัยพูดแบบ กล้าเหรอ คุณดนัยพูดคำหนึ่ง ยึกยักๆ แล้วก็คุณอมรรัตน์รับทุกครั้ง ผมว่าพฤติกรรมข่าวแบบนี้คุณเลิกซะเถอะ คนอื่นมันเสียหาย”
นายชาดากล่าวต่อว่า “ผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้เรื่อง คุณแตงโมเสียชีวิตคืนนั้น ผมไม่ได้ดูข่าว ผมนอนหลับตื่นมา ผมจำได้ว่า พยายามมาไล่ถามน้องๆ รู้สึกผมจะไปสัมมนา ไปอบรมอยู่ แล้วผมก็แทบไม่ได้ลุกไปไหนเลย ผมยังไม่รู้เลย มารู้ตอนเย็นอีกวันหนึ่งแล้วด้วย ถือว่าอันนี้มันไม่ให้กับความเป็นธรรมกับผม ผมเสียหายเป็นพิเศษ เพราะว่าผมมีลูกมีหลาน”
นายดนัยกล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะเปิดพื้นที่ให้นายชาดาระบายได้เต็มที่ แม้จะด่าตนก็รับได้ ตนคาดว่าจะเจออย่างนี้ แต่ก็เต็มใจที่จะเปิดพื้นที่ให้นายชาดาระบายได้เต็มที่ ไม่มีปัญหา นายชาดากล่าวว่า “คุณดนัย คุณต้องขอโทษผม คุณรู้อยู่แก่อกว่าผมไม่เกี่ยว คุณจะขอโทษผมหรือเปล่า ถ้าคุณขอโทษผมวันนี้ผมจบ ผมไม่ได้มีอะไร แต่ผมถือว่าผลจากการกระทำของคุณ ทนายตั้มยังคิดว่าเป็นผมเลยจากโทรศัพท์ สังคมมันไปแล้ว” เมื่อนายดนัยถามว่า โล่งขึ้นไหม นายชาดาตอบว่า “โล่งไม่โล่งคุณดนัยขอโทษผมไหม คุณขอโทษผมไหมว่าเหตุการณ์เมื่อวานคุณไม่มีเจตนาที่จะใส่ร้ายผม” นายดนัยกล่าวว่า ตนรับทราบความต้องการ รับทราบความรู้สึก นายชาดากล่าวว่า “คุณไม่ขอโทษใช่ไหม คุณอย่าเบี่ยงเบนประเด็น คุณบอกมาเลยว่าขอโทษหรือไม่ขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าเรามีติดค้างต่อกัน”
นายดนัยกล่าวว่า เอากันอย่างนี้ ถ้าทำให้นายชาดาเสียหายหรือไม่สบายใจมากๆ ก็ให้รับรู้กันตรงนี้ว่าตนก็ไม่สบายใจเช่นกัน นายชาดากล่าวว่า “แต่คุณก็ไม่ขอโทษในสิ่งที่คุณทำ ผมถือว่าคุณเป็นนักข่าวที่มีจรรยาบรรณ มันพลาดได้ แต่การพลาดแล้วต้องยอมรับ” นายดนัย กล่าวว่า ใจเย็นๆ พลาดหรือไม่พลาดเดี๋ยวว่ากัน แต่จะให้ขอโทษ ตนขอโทษได้ไม่มีปัญหา นายชาดาจะได้สบายใจ ตนไม่มีฟอร์มหรอก สบายใจได้ จะระบายอะไรอีกไหม ตนเต็มที่ ไม่ว่าจริงๆ นายชาดากล่าวว่า “ผมคงไม่มีอะไรระบาย แต่ผมเพียงแค่ต้องการปกป้องผม ผมเสียหายเป็นพิเศษ ข่าวคุณแตงโมเป็นข่าวที่ดังไปทั่วประเทศ คุณอย่าลืมว่าผมเสียหายเป็นพิเศษ หลานผมเมื่อวานโทร.หา เพื่อนถาม ที่เกิดจากถามมันเป็นความเสียหายที่คุณก่อไว้ แล้วถ้าผมไปเกี่ยวพันกับคุณปอ ผมไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่คุณไผ่ (ไผ่ ลิกค์) ออกมายอมรับแล้วว่าเขาโทร.คุยกัน แล้ว ช.ช้าง มันมีเยอะแยะนักการเมือง แต่คุณไม่พูดถึง คุณไปหยิบภาพที่ผมไปเจอคุณปอในงานบวช คนเห็นกันเป็นพัน นักข่าวเขาอยู่ตรงนั้นเยอะ คุณหาภาพแป๊บเดียวเหรอ คุณไปหยิบ ช.ช้างมาเป็นชาดาเหรอ ผมถือว่าเจตนาไม่ดี”
นายดนัยกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นนายชาดาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า กับปอก็รู้จักกันมานานแล้วใช่ไหม นายชาดา กล่าวว่า “ผมรู้จักมานานแล้ว ไม่ได้ผิดตรงไหน แล้วผมไม่ได้คุยกับเขามาหลายปีแล้ว ไม่เคยโทรศัพท์คุยกันด้วย ตั้งแต่รู้จักกับคุณปอมาไม่เคยโทรศัพท์ รู้จักเพราะเรื่องรถ ผมไปถ่ายน้ำมันเครื่องที่บริษัทเขา เป็นเพื่อนของลูกสาว อดีตแฟนเขารุ่นเดียวกับลูกสาว อันนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ รู้จักกันแต่ไม่เคยมีเบอร์โทรศัพท์ ไม่ได้โทร.หากัน แล้วไม่ได้คุยกันมาก็จะเป็นสิบปีแล้ว … คนอื่นซื้อแล้วผมไปถ่ายน้ำมันเครื่อง” และกล่าวถามกลับนายดนัยว่า “แล้วคุณยังไม่ยอมรับในสิ่งที่คุณทำล่ะ ว่าคุณทำร้ายผม เพราะว่าวันนี้ต้องให้สังคมรู้และเข้าใจด้วยว่า มันมีพวกหิวแสงออกมาพูดคุณแตงโมเอนเตอร์เทน คุณแตงโมฉี่ ผมว่าเป็นการที่ไม่ให้เกียรตินะ สังคมต้องลงโทษกับคนพวกนั้น เอาความจริงออกมา แล้วที่สำคัญ ใครที่พูด คุณรับเงินใครมาหรือเปล่า เบี่ยงเบนประเด็นมาเป็นผม ตำรวจเขากำลังจะสรุปอยู่แล้ว แล้วผมก็มีข้อมูลเหมือนกันว่า คุณอยู่ฝ่ายเดียวกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง จ้องทำลายผม ผมก็พูดได้ ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่คุณภาพ คุณยอมรับผิดหรือเปล่า คุณนักกฎหมาย คุณไม่ยอมรับผิดก็ไม่เป็นไร เพราะผมถือว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สบายใจหรือไม่สบายใจ แต่มันเป็นเรื่องที่สังคมเชื่อไปแล้ว มันอยู่ที่ตัวคุณ เข้าใจไหม สังคมเชื่อไปแล้ว”
นายดนัยกล่าวว่า สบายใจแล้วนะ โล่งแล้วนะ นายชาดากล่าวว่า “สรุปว่าคุณไม่ขอโทษใช่หรือเปล่า คุณอย่าเบี่ยงเบนประเด็น แสดงว่าไม่ขอโทษ ผมจะได้รู้ว่าคุณไม่ขอโทษ ผมก็ต้องมีวิธีการดำเนินการปกป้องศักดิ์ศรีผม” นายดนัยกล่าวว่า อะไรถูกหรืออะไรผิด ให้ไปจบกันที่ให้ทางตำรวจเขาคลี่คลายคดีกันไปก็แล้วกัน นายชาดากล่าวว่า “แล้วตำรวจเขาบอกว่าผมไม่เกี่ยวข้อง” นายดนัยกล่าวว่า แล้วถ้านายชาดาไม่สบายใจ แล้วก็เสียหาย ให้รับรู้กันตรงนี้ว่าผมไม่สบายใจ ผมขอโทษที่ทำให้เสียหาย นายชาดากล่าวว่า “ถือว่าลูกผู้ชายพอ ถือว่าจบ คุณขอโทษก็แค่นั้น แล้วทีหลังอย่ามาทำกับผมอย่างนี้อีก” ก่อนตัดสาย
นายดนัยกล่าวว่า ตนเคยพูดหลายครั้งว่าไม่มีฟอร์ม ก็แมนๆ วิจารณ์คนอื่นมาเยอะ จะถูกวิจารณ์บ้างจะเป็นไรไป ตนก็รู้ว่าเปิดพื้นที่ให้นายชาดา นายชาดาก็ต้องด่าตน แต่ตนเต็มใจให้แกด่า ก็ต้องเปิดเต็มที่กันไปเลย ไม่เห็นมีอะไร เรื่องอะไรถูกอะไรผิดสุดท้ายให้ไปจบที่พนักงานสอบสวนก็แล้วกัน ก็หวังว่านายชาดาสบายใจขึ้นแล้วนะ (หัวเราะ)