นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีเฟซบุ๊กชื่อ เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ประกาศเปิดตัว RT MOVEMENT ซึ่งใช้สัญลักษณ์ค้อนเคียว ในการขับเคลื่อน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการปลุกสำนึกทางชนชั้นของเหล่าแรงงานผู้ถูกกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงานออฟฟิศ แม่บ้าน รปภ. นอกเครื่องแบบ ชาวนา ข้าราชการ โดยอ้างว่าทุกคนล้วนเป็นแรงงานผู้ถูกกดขี่ เพื่อหวังให้ทุกคนร่วม RESTART THAILAND เพื่อสร้างสังคมที่ “คนเท่ากัน” นั้น
รูปภาพ “ค้อนเคียว” ที่เยาวชนปลดแอกนำมาใช้นั้น เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลัทธิคอมมิวนิสต์ มักใช้เพื่อเป็นเครื่องหมายของลัทธฺคอมมิวนิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์ หรือรัฐคอมมิวนิสต์ ต่างๆ ทั่วโลก โดยปกติแล้วมักทำเป็นรูปค้อนและเคียวไขว้กัน ซึ่งเครื่องหมายทั้งสองอย่างนี้ คือสัญลักษณ์บุคคลในชนชั้นกรรมาชีพและชนชั้นชาวนา การนำสัญลักษณ์ทั้งสองอย่างมารวมกัน จึงหมายถึงเอกภาพของแรงงานในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมในแบบคอมมิวนิสต์ และสัญลักษณ์ดังกล่าวนี้เป็นที่รู้จักกันดีจากการที่นำรูปดังกล่าวไปใช้ในธงชาติสหภาพโซเวียติ ควบคู่ไปกับรูปดาวแดง และยังถูกนำไปใช้ในธงและตราสัญลักษณ์ต่างๆ อีกจำนวนมาก และถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วเมื่อปี 1991 แต่ทว่าสัญลักษณ์ค้อนเคียว ก็ยังคงถูกนำไปใช้ในประเทศที่ใช้ระบอบคอมมิวนิสต์อยู่ เช่น ลาว เวียตนาม จีน และคิวบา ฯลฯ
ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของลัทธิคอมมิวนิสต์ คือ การล้มล้างระบบศักดินา ระบบกษัตริย์ ระบบชนชั้น ฯลฯ ซึ่งไม่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และจารีตนิยมของการปกครองของไทย ในในยุคหนึ่งมีการทำสงครามเย็นกันขึ้นเพื่อเผยแพร่ลัทธิดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย จนหลายคนหลงผิดหนีเข้าป่าไปเป็นสาวกของลัทธิดังกล่าวมากมาย จนรัฐบาลสมัยนั้นต้องออกกฎหมาย พรบ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 ขึ้นมา เพื่อระงับ ยับยั้งการกระทำอันเข้าข่ายเชิดชูลัทธิอันตรายดังกล่าว เพราะลัทธินี้ถือได้ว่าเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่เมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปจากสนามรบกลายเป็นสนามการค้า ทำให้รัฐบาลในสมัยนายชวน หลักภัย ได้ออก พรบ.ยกเลิก พรบ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 พ.ศ.2543 ในที่สุด
ดังนั้น “หากจะเป็นการป้องกันดีกว่าแก้” ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลควรพิจารณานำกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาปัดฝุ่นบังคับใช้อีกครั้ง เพื่อระงับยับยั้งกระบวนการทั้งใต้ดิน บนดิน ของกลุ่มปลดแอก กลุ่มแนวร่วม และกลุ่มต่างๆที่กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมเหล่านั้นเสีย แต่หากยังไม่ถึงเวลา รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดกว่าปัจจุบันในการจัดการบุคคลหรือกลุ่มที่ละเมิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดเสียที นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด