24 ส.ค.2565 – ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องฝ่ายค้าน เพื่อวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมีมติ 5 ต่อ 4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง โดยถือว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าเข้าตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ โดยศาลมีอำนาจสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยหรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า แต่โดยปกติจะเป็นจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งตนไม่ทราบว่าเมื่อใด แล้วส่งเรื่องให้ผู้ถูกร้องหรือคือนายกรัฐมนตรีให้การหรือชี้แจงภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ (24 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องทำคำชี้แจงไป ซึ่งได้ยินว่าทีมกฎหมายของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำคำชี้แจงไว้แล้ว ส่วนจะยื่นอย่างไรและเมื่อใดตนไม่ทราบ
“ระหว่างนี้รองนายกรัฐมนตรีตามลำดับที่เรียงเอาไว้คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน หรือที่เรียกว่ารักษาการแทน โดยเรื่องนี้ได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม. ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้ ครม. ทุกคนได้รับทราบ และ ครม.จะอยู่เป็นครม.ตามปกติ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้พ้นเพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีตเหมือนนายกฯ ลาไปเมืองนอก หรือป่วย ก็จะถือว่าหยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็น รมว.กลาโหมอยู่อีกตำแหน่งหนึ่ง และเมื่อนับจำนวน ครม.แล้วก็ยังไม่เกิน 36 คน พล.อ.ประยุทธ์จึงยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหมได้” นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการโดยอัตโนมัติใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ เพราะได้จัดลำดับเรียงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ที่จริงจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็ได้ หาก ครม. จะเปลี่ยน แต่ในขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนทำไม
ถามอีกว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “เหมือนกับนายกรัฐมนตรีทุกอย่าง”
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีรักษาการมีอำนาจในการยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ ทำได้ แต่จะไปทำทำไม ทำได้เหมือนายกรัฐมนตรีทุกอย่าง”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำว่ารักษาการนายกฯ กับคำว่าปฏิบัติราชการแทนเหมือนกันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นภาษาพูดกับภาษาเขียน แต่ไม่ได้แตกต่างกัน อย่าไปเรียกนายกฯก็แล้วกัน ก็เหมือนตอนที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปประชุม ค้างแรม 3-4 วัน พล.อ.ประวิตรก็รักษาการแทน เช่น เป็นประธานในที่ประชุม ครม.
ต่อข้อถามว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติดต่อมาหารือหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อมา เพราะตนติดภารกิจชี้แจงกฎหมายในสภา ต่อให้ยกหูมาก็ไม่ติด
พอถามว่าจะเข้าไปให้คำปรึกษาและคำแนะนำต่อการร่างคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายวิษณุ บอกว่า เรื่องนี้ตนได้ยินว่าทีมกฎหมายของนายกฯ ได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม เอกสารหลักฐานที่จะต้องชี้แจงฝ่ายกฎหมายของนายกฯ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่อาจจะต้องนับมาปรับปรุงเพราะบัดนี้ เรารู้แล้วว่าให้ผู้ถูกร้องชี้แจงภายใน 15 วัน
ถามด้วยว่าพล.อ.ประวิตร มีสิทธิ์ปฏิเสธเป็นรักษาการนายกฯได้หรือไม่ รองนายกฯวิษณุ อธิบายว่า ได้ หากป่วย และไม่รับ ก็เป็นธรรมดา จึงต้องมีการเรียงลำดับรองนายกฯ ไว้ 6 คน เพราะคนนั้นหรือคนนี้อาจมีปัญหา ลองคิดดูหากท่านหกล้ม คนอื่นก็ต้องมาเป็นแทน
เมื่อถามว่านายวิษณุพร้อมที่จะเป็นนายกฯ รักษาการหรือไม่ หากมีอะไรเกิดขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่พร้อม ตนหนักกว่าพล.อ.ประวิตรอีก หากรองนายกฯ ทั้ง 6 คนไม่สามารถทำหน้าที่รักษาการนายกฯ แทนได้ ครม.จะเลือกรัฐมนตรีคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากกฎหมายลูกผ่านกระบวนการเรียบร้อยแล้ว นายกฯ ที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนั้น จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ นายกฯที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนั้นจะเป็นผู้ทูลเกล้าฯ และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ก็ไม่แปลกอะไร ตนก็เคยเป็นรองนายกฯ ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อข้อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญโอเคกับกฎหมายลูกก็จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่โอเคได้ง่ายๆ หรอก กฎหมายลูก เพราะกฎหมายเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบมาแล้วว่าไม่ติดใจอะไร แต่ตามข้อบังคับของรัฐสภา ต้องเก็บเอาไว้ 3 วัน เผื่อใครจะร้องศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าร้องมันก็หยุด และไม่มีใครรับสนองอะไร ไปศาล พอพ้น 3 วัน ก็จะส่งไปที่รัฐบาล รัฐบาลก็จะต้องเก็บไว้อีก 5 วัน เผื่อจะมีใครร้อง พอพ้น 5 วันก็สามารถเก็บไว้อีก 20 วัน แต่ว่าไม่จำเป็นต้องไปวันที่ 20 อาจจะเป็นวันที่ 6-8 ก็ได้ ฉะนั้นจึงยังไม่มีเรื่องที่จะต้องรับสนองได้ง่ายๆ ยังมีเวลาอีกเยอะ พอดีพอร้าย คำวินิจฉัยเรื่อง 8 ปี อาจจะออกมาก่อนก็ได้ ส่วนกฎหมายลูกพรรคการเมืองขณะนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ต่อมา เวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ ให้สัมภาษ์อีกครั้งว่า เมื่อสักครู่ตนได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านระบุว่า ระหว่างนี้จะไม่มาที่ตึกไทยคู่ฟ้า จะไปปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหม และในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านก็สามารถเข้าประชุมในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ที่คนได้พูดคุยเมื่อสักครู่ ก็ระบุว่าจะไม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
ส่วนภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นประธานในพิธีบรรจุอัฐิพล.อ.เปรม ติณสุลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี วันที่ 26 สิงหาคม ท่านมอบหมายให้ตนไปแทน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการอะไรหรือไม่ นายวิษณุ บอกว่าไม่มี คงต้องรอให้ท่านตั้งตัวก่อน อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับทั้งสองท่าน ไม่มีใครตื่นเต้นตกใจอะไร
เมื่อถามต่อว่า สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกกระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป นายวิษณุ กล่าวว่า มันคงไม่ยาวไปถึงการประชุมเอเปก คงรู้ดีรู้ชั่วกันก่อนแล้ว
ถามอีกว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.ประวิตร สามารถรื้อโผเดิมได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ารื้อ แต่ให้ใช้คำว่าสามารถทำได้ ซึ่งเรื่องการแต่งตั้งทหารต้องผ่าน 7 คน ประกอบด้วย รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม และผบ.เหล่าทัพ ถ้า 7 คนนี้มาอย่างไร นายกฯก็รื้อไม่ได้ ส่วนการแต่งตั้งตำรวจนั้นต้องไปผ่านก.ต.ช. ที่เป็นการตั้งผบ.ตร.คนเดียว ผบ.ตร.คนเก่าและคนใหม่ก็ต้องช่วยทำบัญชีด้วยกัน โดยทั้งสองส่วนนี้นายกฯเป็นผู้ลงนาม
ผู้สื่อข่าวซักว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเป็นสัญญาณลบต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ รองนายกฯวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องที่สื่อต้องไปวิจารณ์กันเอง ตนจะชี้แจงที่เป็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย
ถามอีกว่า ผลที่ออกมาวันนี้ เป็นสิ่งที่อยู่ในแนวทางที่นายวิษณุอธิบายในการประชุมครม.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้อธิบายให้ครม.ทราบ และพูดกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะออกมาสองทาง และให้เตรียมทางไว้ ถึงได้เตือนครม.ว่าอย่าตื่นเต้นตกใจ กรุณาทำงานไปตามปกติ
เมื่อถามต่อว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) จะต้องช่วยให้ข้อมูลทางกฎหมายในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าถ้าเขาขอมาต้องช่วย ซึ่งเรื่องธุรการ ทั้งสลค.และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เขาเก่ง อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ ถูกฟ้องคดีศาลปกครอง 400 คดี สปน.ก็เป็นผู้ทำทั้งหมด ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.