เถียงกันมาหลายปี งมโข่งวนอยู่ที่เดิม เสียงบไปเกือบพันล้านจากภาษีประชาชน ตั้ง 2 สภา สภาปฏิรูปประเทศ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ตั้งกรรมการ 4 คณะ ครานี้ทะลึ่งเอาทหารทาปฏิรูปตำรวจ สุดท้ายก็จะเกิดสงคราทกลางเมือง มิต่างจาก อิตตาลี่ บราซิล ฯลฯ
การปฏิรูปตำรวจ ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ถ้าทำสำเร็จ ทำเป็นตำรวจจะเป็นพวกของประชาชน ไร้ตำรวจแดง ตำรวจจะหันมารับใช้ประชาชน มิใช่จ้องจับอย่างเดียว ประชาชนจะพึงพอใจ ตำรวจก็จะพึงพอใจ ในหน้าที่ของคงตน
ที่มันยากคือ คนอาสามาการปฏิรูป ทั้งสภา กรรมการทุกคณะ เป็นข้าราชการมาทั้งชีวิต เคยเป็นแต่ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เคยมีใครในคณะกรรมการ หรือสภา แม้แต่คนเดียว เรียนศึกษา กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ทางการเมือง การปกครอง หรือเคยทำงาน รู้การเมืองแบบผิวๆ เปลือกนอก รู้แค่ตามองเห็น 4 ปีจึงได้แค่ “ปฏิลูบ” ลูบๆ คลำๆ ไปเท่านั้น
จึงทำไม่เป็น ไม่เข้าใจโครงสร้างกาารปกครอง จ้องแต่จะ copy การปกครองตำรวจของต่างชาติต่างๆ ทั้งฝรั่งหัวแดง และเอเซีย โดยเฉพาะสหรัฐ ที่ปกครองแบบมลรัฐ เลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข นับถือศาสนาคริสต์ แต่ไทยเป็นรัฐเดี่ยว มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นับถือศาสนาพุทธ จะเอาแลบสหรัฐ มาใช้กับไทย ทั้งที่แต่ละชาติมันต่างกัน ทั้ง พฤติกรรม ประเพณี สีผิว และชาติพันธ์ ศาสนา คิดแต่จะลดอำนาจ ทำลาย ถอดยศ โดยไม่คำนึกถึงหัวใจสำคัญ ที่ตำรวจต้องจะมารับใช้ประขาชน อย่างเต็มภาคภูมิใจ
ปฏิรูปตำรวจที่สำเร็จ “ไม่ต้องถอดยศ ไม่ต้องลดอำนาจ ไม่ต้องยุบหน่วยงาน สำนักงาน กองบัญชาการ หน่วย ไม่ต้องแยกสายให้วุ่นวาย ”
ทำให้การปฏิรูปตำรวจ จึงเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะรู้ไม่จริง ไม่เข้าใจจริง ทำไม่เป็นแต่ทะลึ่งมีอำนาจ ก็แค่นั้นเอง จบข่าว
การปฏิรูปตำรวจที่จะประสบความสำเร็จ สมบูรณ์มั่นคง ยั่งยืนคือ
“ประชาชนต้องพึงพอใจ และตำรวจต้องพึงพอใจในหน้าที่ของตน”
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
22 กรกฎาคม 2560