เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ร้องขอความเป็นธรรม ! ผู้สมัครรับเลือกตั้ง กรรมการกลาง สภาทนายความ ร้องขอความเป็นธรรมสำนักงานศาลยุติธรรม

#ร้องขอความเป็นธรรม ! ผู้สมัครรับเลือกตั้ง กรรมการกลาง สภาทนายความ ร้องขอความเป็นธรรมสำนักงานศาลยุติธรรม

24 February 2022
493   0

  ผู้สมัครรับเลือกตั้ง กรรมการกลาง สภาทนายความ ร้องขอความเป็นธรรมสำนักงานศาลยุติธรรม

กรณี บุญชัย วสุนธรา หมายเลข ๑ นางสาว จุติเสฏฐ์ มิตรมัยผล หมายเลข ๒ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง กรรมการกลาง มีจดหมายเปิดผลึกถึงเลขาศาลยุติธรรมว่า

เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ตามที่คณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ ได้ประกาศให้มีการรับสมัคร และมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ

เมื่อวันที่๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ มีผู้สมัครเป็นผู้บริหารสภาทนายความ จำนวน ๔๖ รายตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ พ.ศ.๒๕๒๔ ข้อ ๓ นั้น ไม่เป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับสภาทนายความ แต่อย่างไร

แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ผู้คัดค้านการเลือกตั้งที่เป็นทีมผู้บริหารสภาที่นายถวัลย์ รุยาพร เป็นนายกสภาทนายความ และนายทะเบียนสมาชิกทนายความทั่วประเทศที่คัดค้านการเลือกตั้ง ก็มาลงสมัครด้วยการยอมกลืนน้ำลายตนเอง โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีตนเอง

อีกทั้งเมื่อลงสมัครแล้ว ก็ไม่ยินยอมให้รายชื่อสมาชิกสภาทนายความผู้มีสิทธิลงคะแนน เลือกตั้งทั่วประเทศให้กับ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง

โดยรู้อยู่แล้วว่า สมัยที่ นายถวัลย์ รุยาพร ที่ได้ดำรงค์ตำแหน่งนายกสภาทนายความ ประธานมรรยาทสภาทนายความก็เป็นผู้ประกาศให้มีการเลือกตั้งวัน21เมษายน2562 และจะปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกต่อจากกรรมการสภาทนายความที่จะครบวาระในการดำรงค์ตำแหน่งสามปี ในวันที่ 8 กันยายน 2562 ตามประกาศประธานมรรยาททนายความที่แนบมานี้

แต่ นายถวัลย์ รุยาพรนายกสภาทนายความ และคณะกรรมการ ซึ่งมีมติคัดค้านการเลือกตั้ง ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕

รวมถึงประกาศการแต่งตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ตามพระราชบัญญัติทนายความปี 2528 และมีการดำเนินคดีกับประธานมรรยาททนายความบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครอง และศาลอื่นโดยเมื่อวันที่ 4กุมภาพันธ์ 2565 และได้ยื่นต่อศาลปกครองกลางแล้วตามคดีหมายเลขดำที่ 211/2565 ว่าตนเองจะครบวาระในวันที่ 4กันยายน 2565

จึงได้คัตค้านการเลือกตั้ง อันเป็นการทำหน้าที่โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ สภาทนายความ และทนายความทั้วประเทศ เป็นเหตุให้สำนักงานศาลยุติธรรม ยกเลิกให้ใช้สถานที่ และบุคคลกรธุรการศาลทั่วประเทศ ประจำหน่วยเลือกตั้ง ย่อมทำให้สังคมในนักกฏหมายเห็นว่า สภาทนายความมีความขัดแย้งกับ สมาชิกสภาทนายความผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ย่อมสร้างความเสื่อมเสียต่อสภาทนายความ

ผู้สมัครกรรมการกลาง จึงมีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ เลขาธิการศาลยุติธรรม ได้มีการทบทวนคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้มีแนวคำพิพากษาศาลปกครองได้มีคำพิพากษาว่า การจัดให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารสภาทนายความ เป็นอำนาจตามกฏหมายโดยเฉพาะให้ประธานมรรยาททนายความมีอำนาจตามกฏหมายแต่เพียงผู้เดียวงาน