28 พ.ย.2565 – นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีข่าวคนร้ายเตะก้านคอลากผู้หญิงไปข่มขืนกลางเมืองอุบลราชธานี ความว่า พฤติกรรมอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต้องฟ้องศาลดำเนินคดีให้หนัก อัยการจะ บรรยายคำฟ้อง ถึงประวัติเก่า ติดคุกมากี่ครั้ง พ้นโทษมาแล้วมาก่อเหตุคดีนี้อีก อุกอาจทำร้ายข่มขืนผู้หญิงกลางเมืองอุบลราชธานี ตามกฏหมายมีเหตุเพิ่มโทษ บวกโทษ งาน โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โทรประสาน ท่านศิริพร สังวรณ์ อัยการจังหวัดอุบลราชธานี ขอให้ตรวจสอบประวัติคนร้าย บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษสถานหนักเพราะพฤติกรรมไม่เข็ดหลาบติดคุกแล้วยังออกมาก่อคดีทำร้ายข่มขืนผู้หญิงอีกหลายคดี บังอาจกระทำความผิดในที่สาธารณะกลางเมืองซึ่งเป็นที่ๆประชาชนควรจะต้องได้รับความปลอดภัยที่สุด ทำให้ประชาชน เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยแม้อาศัยอยู่กลางเมือง
จาก ข่าวเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2565 กรณีคนร้าย เลวโดยสันดาน ติดคุกมาแล้ว 4 ครั้ง ยังออกก่อเหตุต่อเนื่องโดยภาพวงจรปิดได้จับภาพคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายสาววัย 18 ปี ด้วยการเตะก้านคอจนสลบ ที่บริเวณทางเข้าทุ่งศรีเมือง หน้าศาลแขวงอุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนลากเข้าไปขืนใจ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
“พบเหยื่ออีกราย “เดนคุก”เตะก้านคอสาวลากไปชำเรา ล่าสุดพบเหยื่อ อีกรายเป็นสาวไทใหญ่ ถูกมอมเหล้า นำตัวกักขังในห้องเช่าลงมือขืนใจข้ามวัน เปิดประวัติเลวโดยสันดาน ติดคุกมาแล้ว 4 รอบ ล่าสุดเดือนเดียวก่อเหตุ 6 คดี”
ท่านอัยการสูงสุด นารี ตัณทเสถียร ได้เคยมอบนโยบายไว้ว่างานคดีอาญาคือ งานที่คุ้มครองสังคม จึงเป็นหน้าที่อัยการต้องหาทางลงโทษสถานหนักตามพฤติการณ์ของคนร้าย และมาตรการต่างๆ ตามกฎหมายต่อไป