10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:40 น.
10 มี.ค.64 – ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรและแนวร่วมหลายแห่งในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า สถานการณ์เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่เรือนพิเศษจำกรุงเทพและเรือนจำพิเศษธนบุรี สถานการณ์เรียบร้อย มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมาทำการชุมนุม ได้ให้ตำรวจพื้นที่พิสูจน์ทราบตัวผู้ชุมนุมและจะออกหมายเรียกมาดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ส่วนการชุมนุมที่หน้าศาลอาญามีการทำกิจกรรมบางอย่างที่มีผลกระทบต่อศาลอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับศาลอาญาว่าการกระทำดังกล่าวละเมิดอำนาจศาลหรือไม่อย่างไร ถ้ามีการละเมิดอำนาจศาลก็ต้องมีการดำเนินคดีในข้อหาละเมิดอำนาจศาลด้วยอีกส่วนหนึ่ง
พื้นที่ของศาลเป็นพื้นที่หวงห้ามสำคัญ การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่มีผลกระทบไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกเข้าไปยังพื้นที่ศาล หรือการกระทำใดๆรบกวนการปฏิบัติหน้าที่เช่นการใช้เครื่องเสียง การใช้แสงสีเสียงหรืออื่นที่ๆมีผลกระทบต่อหน้าที่ของการปฏิบัติงานของศาล ตลอดจนการกระทำใดๆที่กระทบต่อศักดิ์ศรี จะอยู่ในข่ายการละเมิดอำนาจศาล จะเข้าข่ายหรือไม่เป็นการหารือร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ศาล ส่วนกรณีมีการยิงปืนใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างเดินทางกลับขณะผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมหน้า สน.พหลโยธิน ขณะนี้คืบหน้าไปมาก พอรู้กลุ่มตัวบุคคลแล้วขอพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกนิดแล้วจะมีการออกหมายจับในเร็วๆนี้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า การแบ่งการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าศาลและการชิงตัวประกันแบ่งการดำเนินคดีได้ 5 กลุ่ม อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการทุกมติ อย่างที่ได้เรียนไปแล้วการกระทำผิดใดๆ กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการแจ้งเตือนตลอดเวลาว่า เป็นการกระทำผิดแต่ยังฝ่าฝืนที่จะกระทำเช่นนั้น อ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ทำอย่างจริงจังไม่มีการกลั่นแกล้ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา สิ่งที่ทำมีพยานหลักฐานปรากฏเราต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการชุมนุมที่ไม่มีแกนนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการปรับกลยุทธ์อย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ เผยว่า การชุมนุมทุกครั้งมีแกนนำแน่นอน ผู้ชักชวนคือแกนนำแต่จะเปิดเผยตัวหรือแอบอยู่เบื้องหลังเท่านั้นเอง ไม่มีการชุมนุมครั้งไหนไม่มีแกนนำทุกครั้งมีแกนนำ แต่มาโดยเปิดหน้าหรือไม่เปิดหน้าแค่นั้นเอง ส่วนการชักชวนชุมนุมวันนี้ในช่วงเย็นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่เตรียมกำลังไว้เพียงพอแก่การรักษาการณ์ ให้ตำรวจพื้นที่ บก.น.1 สน.พญาไท รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันเหตุร้าย บช.น.มีกำลังเสริมกรณีมีการชุมนุมลุกลามมากขึ้น ส่วนนี้ไม่น่าห่วง ฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม การชุมนุมขณะนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากยังฝืนกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายครั้งจะถูกดำเนินคดีในหลายคดีหลายข้อหา
ส่วนการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินจากอนุสารีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล จะมีการเตรียมกำลังตามการข่าวและลักษณะการชุมนุม ถ้าสถานการณ์การข่าวจะมีอันตรายต่อสถานที่ราชการสำคัญเรามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาสมบัติของชาติ รักษาสถานที่สำคัญและรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพฯ ผู้ชุมนุมมาก เราไม่ห่วง แต่กังวลว่าอาจจะใช้ความรุนแรง อย่างที่เห็นผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุบทำลายสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน มีการใช้พลุเพลิง พลุไฟ ดอกไม้ไฟ มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายที่จะลุกลามใหญ่โต บางครั้งถ้าเกิดในสถานที่โบราณสถานถ้าเกิดแล้วเราไม่สามารถฟื้นฟูหรือซ่อมแซมกลับมาเหมือนเดิมได้ หลายแห่งมีอายุนับ 100 ปี ถ้าเกิดเหตุขึ้นจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศ
พล.ต.ต.ปิยะ-ต๊ะวิชัย