เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ล้มตาอยู่ 3 ป. ! จตุพร-นกเขา ต้องแก้รธน.ก่อนเลือกตั้ง

#ล้มตาอยู่ 3 ป. ! จตุพร-นกเขา ต้องแก้รธน.ก่อนเลือกตั้ง

15 October 2022
240   0

 

ย้ำแก้ รธน.ก่อนเลือกตั้ง
ล้ม“ตาอยู่-3 ป.”
คิดรวบอำนาจพัง ปท.
…………………………….
“จตุพร-นิติธร” ประเมินสถานการณ์ 3 ฝ่าย“พรรครัฐบาล-ฝ่ายค้าน-3 ป.ในรหัส“ตาอิน-ตานา-ตาอยู่” ชี้ตาอยู่-3 ป.ได้เปรียบกุมเกมเจ้าเล่ห์รอคว้าพุง“รักษาการ”ยาว อัดตาอินกับตานายุ่งเหยิง แตกแยก อยากเลือกตั้งหาเสียงประเคน“ประยุทธ์”รวบอำนาจอีก ดึงสติพรรคร่วมมือ ปชช.แก้ รธน.เปลี่ยนกติกาก่อน ติง รธน.60 สร้างปัญหา อย่าเอาใช้สร้างอนาคตใหม่ เชื่อยิ่งก่อปัญหานำพา ปท.พังย่อยยับ

เมื่อ 15 ต.ค. 2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์และนายนิติธร ล้ำเหลือ คณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน กล่าวถึงสถานการณ์ชิงอำนาจการเมืองของ “ตาอิน ตานา ตาอยู่” แต่ด้วยเกมเจ้าเล่ห์เหนือชั้นทุกกระบวนท่า สุดท้าย “ตาอยู่-3 ป.” จึงรวบอำนาจคุมการนำประเทศอยู่ยาว โดยมีกุลธิดา ช้วนกุล ดำเนินรายการ

นายจตุพร นิยามสถานการณ์ว่า เมื่อการเมืองไทยคือละครได้แต่แสดงหลอกต้มกัน ส่วนนักการเมือง มักเป็นคนพูดเท็จให้คนอื่นเชื่อถือ แต่พูดนานเข้าตัวเองกลับเชื่อในสิ่งที่พูดเท็จว่าเป็นเรื่องจริงตามไปด้วย ดังนั้น สถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ 3 ป. ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น “ตาอยู่”ได้เปรียบทางการเมือง ส่วนตาอินเป็นพรรครัฐบาลปัจจุบัน และพรรคฝ่ายค้านอยู่ในสถานะตานา โดยตาอินกับตานาล้วนมีปัญหาภายในแตกแยกขัดแย้งกันภายในทั้งสองฝ่าย

เมื่อแจกแจงฐานเสียงอำนาจการเมืองแล้ว ตาอยู่เริ่มมีฐานสนับสนุนจาก ส.ว. 250 คนในกำมือหาอีก 126 คนก็ได้คุมอำนาจรัฐบาลต่อไป ส่วนตานาเริ่มต้นนับหนึ่งหาเสียงมาแข่งขันถ่วงดุล และตาอินคอยดูทีท่าของตาอยู่ และพร้อมจับมือตาอยู่ได้ตลอดเวลา

ดังนั้น ในสถานการณ์ปัจจุบัน ฝ่ายตานาไม่เป็นเอกภาพ เพราะพรรคก้าวไกลมุ่งมั่นไปสู่อนาคต ด้วยการเสนอปฎิรูปสถาบัน ยกเลิก ม.112 แล้วปัญหาคือ เพื่อไทยจะกล้า จะรับและเห็นด้วยหรือไม่ คงไม่วิ่งหนีกันทั้งพรรคเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดกับนายจักรภพ เพ็ญแข อีกหรือ นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยังลุกลามขัดแย้งหนักกับพรรคเพื่อไทย กรณีดึง ส.ส.เก่าน้ำดีกลับมาเพื่อไทยอีกครั้ง ซึ่งเป็นการหักหน้ากัน กรณีเช่นนี้ในซีกพรรคฝ่ายค้านที่ประกาศเป็นฝ่ายประชาธิปไตยยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันและกัน รวมทั้งไม่อาจผ่านด่านอนาคตของพรรคก้าวไกลไม่ง่ายนัก หากประเมินจากคำประกาศปฏิรูปสถาบันของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ส่วนตาอินพรรครัฐบาล ในส่วนของภูมิใจไทยช่วง 4 ปีมีความแข็งแรงทางการเมืองมาก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นลูกผีลูกคน และพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมุ่งมั่นอยู่เป็นรัฐบาล และไม่คิดเปลี่ยนใจไปจาก 3 ป. โดยกรณีเบิกเงิน 50 ล้านช่วยเกษตรกรปลูกใบยาสูบ แต่เงินม่ถึงมือเกษตรกรจึงเห็นชัดถึงการข่มขู่ทางการเมืองแบบไม่ไว้หน้าใคร

ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มสามมิตร ยังมั่นคงกับ 3 ป. ถ้ามีใจตีตัวออกห่างแล้ว ให้รอดู พล.อ.ประยุทธ์ ปรับ ครม. หากกระแสอยากย้ายพรรคเป็นจริงคงถูกปรับออกทันที สำหรับ พปชร. ถูก พล.อ.ประยุทธ์ มองขาดว่า ถ้าเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ยังร่วมอยู่ด้วย ด้วยในสถานการณ์แบบนี้ หากพรรคการเมืองบีบเร่งเลือกตั้ง ยิ่งจะไม่ได้เลือกตั้ง และจะเจอการยุบสภาเข้าไปอีก

ดังนั้น จึงต้องแก้ รธน.ใหม่ ให้ได้กติกาเลือกตั้งใหม่ โดยใช้พลังประชาชนกดดันให้ไปสู่การแก้ รธน. เช่น กรณีกดดันให้แก้ รธน. 34 จนเกิด รธน. 40 อีกทั้งพรรคการเมืองจะเลือกตั้งได้อย่างไร เมื่อไม่มีกฎหมายลูก แล้วได้เลือกตั้งเมื่อไรก็ไม่รู้

“วันนี้บรรดากองเชียร์หรือติ่งทั้งหลายต้องตั้งสติกันใหม่ พรรคเพื่อไทยถ้าอยากแลนด์สไลด์ต้องสร้างนักการเมืองที่ดี จะเอาสีเทาดำกลับเข้าพรรคกันทำไมอีก หลักการเมืองที่สำคัญต้องเคารพประชาชน ดังนั้น ตรรกะที่ใครเข้าพรรคเป็นนักประชาธิปไตย ย้ายออกเป็นคนทรยศ ด้วยตรรกะแบบนี้จึงทำให้ 3 ป. เป็นตาอยู่สบายเลย เราจึงบอกให้ทำ รธน.ใหม่ เพื่อสร้างกติกาสู้กันใหม่ เพราะยิ่งเร่งเลือกตั้งก็ยิ่งช้า และเข้าทางประยุทธ์ ยุบสภาเลย”

นายจตุพร ย้ำว่า การออกแบบควบคุมอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าฟังจากที่พูดก็ดูเหมือนคนโง่ แต่ที่ไม่พูดนั้น ได้ซ่อนเนื้อแท้คนฉลาดเอาไว้ เพราะมีไพ่การเมืองอีกหลายใบรอเล่นอยู่ ทั้งเรื่องยุบ 3 พรรคการเมืองคือ พปชร. เพื่อไทย และก้าวไกล รวมถึง กกต. มีปัญหาด้านคดีอยู่ ดังนั้น ถ้าสละไพ่ พปชร.ให้ถูกยุบพรรค แล้วก้าวไกลกับเพื่อไทยจะรอดหรือไม่ ซึ่งเข้าทางยุบสภา การอยู่เป็นรัฐบาลรักษาการไม่รู้จะนานแค่ไหน และที่สำคัญเวลาเป็นนายกฯ เหลืออีก 2 ปีก็ไม่ถูกนับร่วมด้วย

นายนิติธร กล่าวว่า คำพูดของ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ที่ว่า สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ เป็นสิ่งชัดเจนที่สุด และได้พิสูจน์แล้วเป็นความจริง เนื่องจากขณะนี้มีความแตกแยกเป็นวงกว้างทั้งรัฐ ทุน และพรรคยังซ้ำเติมความขัดแย้งลงไปอีก ถ้าไม่แก้ปัญหา รธน. ล้ม ส.ว. 250 คน ที่อยู่ใต้อำนาจ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร เมื่อพรรคเข้าสภาก็อยู่ใต้อำนาจของคนพวกนี้อีก

“ถ้าเอาสิ่งนี้เป็นตัวตั้ง ความแตกแยกภายในเป็นแบบไหนก็ตาม พวกคุณ (พรรคการเมือง) ก็เพียงสู้กันเท่านั้น เพราะถึงที่สุดอำนาจรัฐแท้จริงใครคุมอยู่ ประเด็นหาเสียงกระหึ่มด้วยแลนด์สไลด์อย่างไรก็ตาม ถ้า ศาล รธน.ตัดสินกฎหมายลูกแล้ว ทุกอย่างจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ยิ่งกลุ่ม 3 ป. อาจคุยรวมกับพรรคบางพรรคแล้วก็ได้ พวกคุณเป็นแค่ตาอิน ตานา เขายังเป็นตาอยู่ตามเดิม”

พร้อมกล่าวว่า ดังนั้น การสร้างกติกาใหม่ด้วยนวัตรกรรมใหม่เกี่ยวกับการเมือง การปกครองต้องเกิดขึ้น เพื่อให้การเมืองเดินไปได้ คณะหลอมรวมฯ จึงบอกว่า ถ้าไม่แก้ รธน.ก็อย่าหวังจะมีเลือกตั้ง เพราะจะนำไปสู่การก่อปัญหาใหม่ จึงต้องออกมาร่วมมือประชาชนเพื่อแก้ รธน.ขจัดปัญหาให้เป็นจริงก่อน โดยขณะนี้ประชาชนมีสามส่วนติดอยู่ในสภาพของตาอิน ตานา และประชาชนต้องอยู่ได้ จนกว่าจะสร้างกติกาที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้น

“สิ่งที่ควรทำคือ ต้องร่วมมือกับประชาชน เพื่อนำประเทศไม่ให้ตกอยู่กับสภาพเดิม และขณะนี้รัฐกลายเป็นนักประชานิยมเกินเลยกันไปมากแล้ว ซึ่งต่อไปก็ช่วยใครไม่ได้อีกแล้วในประเทศนี้ ปัญหาความวุ่นวายก็จะตามมา”

ส่วนการย้ายพรรคนั้น นายนิติธร กล่าวว่า ตัดสินใจง่ายๆ ไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาทับซ้อนในพื้นที่ ลงระบบเขตเลือกตั้ง สิ่งนี้เกิดจาก รธน.เป็นปัญหา แล้วนักการเมืองจะสร้างสิ่งใหม่ด้วยสิ่งที่เป็นปัญหาได้อย่างไรกัน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงพยายามต้องแลนด์สไลด์ ซึ่งยกมาทั้งตระกูลชินวัตรก็เป็นไปไม่ได้

ไม่เพียงเท่านั้น ถึงฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นรัฐบาล ก็ควบคุมองค์กรอิสระเช่นกันแต่ 3 ป.ก็ทำเช่นเดียวกันแต่เบ็ดเสร็จกว่า ด้วยการเขียนกติกา ทำ รธน.กับมือเอง ดังนั้นการปลดล็อคประเทศจึงไม่เห็นอนาคต แม้เรียกร้องให้ปฏิรูปก็เอาไม่อยู่ แต่ต้องคิดทำโครงสร้างกันใหม่ เริ่มด้วยแก้ รธน.ใหม่ ดังนั้นโอกาสของประชาชนมาถึงแล้ว เนื่องจากถึงวันที่ใช่ สถานที่ใช่ พร้อมคนก็ใช่ เข้าองค์ประกอบการเปลี่ยนแปลง ทำอะไรก็สำเร็จ

“คนมักเข้าใจว่าประยุทธ์ จะหมดอำนาจในอีก 2 ปีตาม ศาล รธน.วินิจฉัย แต่ปัญหาคือประยุทธ์จะเริ่มใช้ 2 ปีเมื่อไร ความเข้าใจว่าจะหมดปี 68 แล้วใครบอกได้ว่าเขาจะเริ่มใช้เวลาเมื่อไร ถ้าประยุทธ์ รักษาการฯ ถึงปี 68 ละ แล้วไปใช้ 2 ปีที่เหลือในปี 69 กับ 70 จะว่าอย่างไร ดังนั้น อย่าไปคำนวนเวลาของโจรกับของพระ มันย่อมไม่เท่ากัน นี่คือการมองอย่างง่ายๆ โดยที่คนอื่นไม่มองกัน” นายนิติธร ประเมินความได้เปรียบทางการเมืองของ 3 ป.

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>