ข่าวประจำวัน » #ล้มเจ้าแฉกันเละ ! ผู้พันสู้ แฉปวินให้ข่าวปลอม หลักหลังผู้ลี้ภัย

#ล้มเจ้าแฉกันเละ ! ผู้พันสู้ แฉปวินให้ข่าวปลอม หลักหลังผู้ลี้ภัย

1 September 2020
977   0

31 ส.ค.63 – นายชนินทร์ คล้ายคลึง หรือ ผู้พันสู้ อดีตนายทหารกองทัพอากาศที่ถูกให้ออกจากราชการและถอดยศ และอดีตแกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ ซึ่งหลบหนีคดี 112 โพสต์เฟซบุ๊กออกมาแฉนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ว่ามีคนมากมายที่มีความรู้สึก ปวินเป็นเผด็จการ เพียงแต่มันไม่มีปืนและกำลังทหารใจกล้าพร้อมตาย มีแต่ลูกสมุนปากหมาด่าชาวบ้านในมือเท่านั้น

นายปวินมีพฤติกรรมการใส่ร้าย ตั้งแต่ด่าเจ้าเอามันโดยไม่ใช้ข้อมูลที่แท้จริง เลือกปฏิบัติ ยันใส่ร้ายผู้ร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง นักกิจกรรม นักข่าว จนเลวร้ายที่สุด ใส่ร้ายปล่อยข่าวกล่าวหาผู้ลี้ภัยแบบตัวผมเองที่ยังคงลำบาก และต้องระวังภัยด้วยตัวเอง

พฤติกรรมแบบนี้ อันตรายที่จะคบหาและให้ความไว้วางใจได้ ผมไม่กล้าไปตัดสินว่าตัวเขา เป็นคนดี หรือเลว เพราะผมเป็นคริสเตียนที่เชื่อฟัง และศรัทธาต่อพระเจ้า และพยายามดำเนินตามพระเยซูคริสต์ที่เป็นแบบอย่าง ใครที่มีโอกาสตักเตือนมัน ฝากพระธรรมแมทธิว บทที่ 7 ข้อที่ 1-5 ไปเตือนสติมันด้วย สำหรับตัวผมเองให้อภัย แต่ขออย่าให้มีการกระทำแบบนี้กับผู้อื่นอีก ผมไม่ตัดสินใคร ปล่อยชีวิตมันไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่นายชนินทร์ คล้ายคลึง ไม่พอใจนายปวินอย่างมากสืบเนื่องจากกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในประเทศกัมพูชา ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ซึ่งมีกระแสข่าวว่าถูกอุ้มหายไปจากหน้าคอนโดฯ ที่พักอาศัยในกรุงพนมเปญ

หลังจากนั้นมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Hong Chenshan ซึ่งปกปิดตัวตน ออกมาเปิดเผยแหล่งกบดานของเหล่าแกนนำ นปช. และความสัมพันธ์คนเสื้อแดงกับมาเฟียในพื้นที่ ก่อนที่จะปิดเฟซบุ๊กในภายหลัง

ปรากฏว่า นายปวินได้ระบุว่า นายชนินทร์ หรือผู้พันสู้เป็นอวตารเปิดเฟซบุ๊กชื่อ Hong Chenshan แฉที่ตั้งขบวนการผู้ลี้ภัย ทำให้นายชนินทร์ต้องออกมาปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีประโยชน์อะไรที่ตนเองจะไปทำแบบนั้น เพราะที่ผ่านมาตนเองใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากและเก็บตัวเงียบๆไม่ยุ่งกับใคร ส่วนใหญ่ในแต่ละวันใช้เวลาเล่นเกม ไม่เคยเขียนเรื่องที่ตั้งนายวันเฉลิมตามที่ถูกกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี

นอกจากนายปวินแล้ว ก็ยังมีนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง เครือข่ายคนเสื้อแดงที่กล่าวหาผู้พันสู้เช่นเดียวกัน ทำให้ตัวเขาต้องถูกด่าทออย่างรุนแรง ส่วนผู้พันสู้ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงหลายครั้ง รวมทั้งโจมตีนายปวินและนายปกรณ์ว่าปล่อยข่าวปลอมและไม่ยอมออกมาขอโทษหรือรับผิดชอบใดๆ