เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ถึงประเด็นที่มีผู้ออกมาระบุว่าเพราะโซเชียลมีเดียกดดัน การเมืองกดดันถึงทำให้รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขดิ้นหาวัคซีนเพิ่ม
นพ.นคร กล่าวว่า เรื่องนี้เราคุยกันมาตลอด ทุกอย่างเป็นเรื่องของเวลา ถ้าเพิ่งมาเริ่มตอนนี้ไม่มีทางที่จะจบได้เร็ว ที่เจอกันเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เราคุยกันมานานแล้ว คุยกันมาตลอดว่าจะได้เมื่อไหร่ ความเป็นไปได้เป็นอย่างไร พอมีความชัดเจนมากขึ้นก็เดินหน้า
“ถ้าเราไม่มีข้อมูลมาก่อนมาคุยวันนี้ เริ่มจากศูนย์วันนี้ไม่ได้อะไร จะมีอย่างที่ไหนที่ไม่เคยคุยอะไรกันมาเลย พอโซเชียลฯ ออกมาพูดแล้ววันนี้บอกได้ 10 ล้านโดสจะเป็นไปได้อย่างไร จะเนรมิตมาได้อย่างไรถ้าไม่มีการคุยกันมาก่อน” นพ.นครกล่าว
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยจัดหาวัคซีนได้ล่าช้า ทำให้ประเทศขาดโอกาสไปหลายอย่าง นพ.นคร กล่าวว่า ไม่ได้ช้าที่เรา แต่ช้าที่การผลิตวัคซีนมีไม่เพียงพอ จองเดือนพ.ย. 63 คำตอบที่ได้คือไตรมาส 3 ไตรมาสที่ 4 ของปี 64 เป็นคำตอบแบบเดิม สรุปไทม์ไลน์ไม่เปลี่ยน แต่เงื่อนไขเปลี่ยน
“เงื่อนไขอันแรกคือราคาที่ถูกลง แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้วัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาไม่น่าจะเร็วกว่าวัคซีนแอสตร้าฯ เพราะกำลังการผลิตไม่พอ ทั้งนี้จะไปเทียบกับอิสราเอลไม่ได้เพราะประชากรเขามี 6 ล้านคน ส่วนที่มีคนออกมาระบุว่าเราอยู่ท้ายแถวนั้นก็ค่อยมาดู วัคซีนไม่ได้อยู่ที่จุดเริ่มต้น สิงคโปร์เริ่มฉีดเดือน ธ.ค.63 กับประชากรราวๆ 5 ล้านคน ก็ยังไม่ได้ฉีดต่อ แต่วางแผนว่าจะฉีดเสร็จในเดือน ก.ย.64 ก็เพราะไม่มีวัคซีน วัคซีนจะเข้ามาก็ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 เหมือนกันทั่วโลก แล้วอะไรคือความช้า” นพ.นคร กล่าว