วันนี้เมื่อ ๕ ปีก่อน
๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๙ ท่ามกลางกระแสข่าวลืออย่างหนัก พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลไปโรงพยาบาลศิริราชอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพื่อถวายพระพรและสวดมนต์อธิษฐานให้ทรงหายจากพระอาการประชวร
ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ ๑๒ ตุลาคม มีพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสวดมนต์และตั้งอธิษฐานจิตถวายพระพรให้ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยประชาชนส่วนหนึ่งพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองและสีชมพูปักหลักสวดมนต์ ด้วยบทสวด “โพชฌังคปริตร” ที่เชื่อกันว่าสวดแล้วจะสามารถทำให้หายจากอาการเจ็บป่วยได้ โดยทุกคนต่างจ้องมองและตั้งจิตอธิษฐานไปยังชั้น ๑๖ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สถานที่ประทับ
โดยช่วงเย็นถึงค่ำมีการเสด็จพระราชดำเนินมายังโรงพยาบาลศิริราช ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน และพระบรมวงศ์ อาทิ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
จนกระทั่งเวลา ๒๐.๑๕ น. วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๙ สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๓๘
ระบุว่าวันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกับภาวะพระโลหิตเป็น กรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการถวายตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่ามีภาวะการติดเชื้อ และการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
หลังจากนั้นประชาชนต่างรอฟังประกาศจากทางสำนักพระราชวังเเต่เพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะมีข่าวจากวงในไหนก็ตามที่ลือกันไปต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีประกาศสำนักพระราชวังฉบับที่ ๓๙ มีเพียงประกาศการสวรรคตของ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เท่านั้น