สกู๊ปข่าว » #วิกฤตที่ต้องมองเห็น!’แก้วสรร’เปิดโปงเป้าหมายสูงสุดของ’ธนาธร-ทักษิณ’

#วิกฤตที่ต้องมองเห็น!’แก้วสรร’เปิดโปงเป้าหมายสูงสุดของ’ธนาธร-ทักษิณ’

27 March 2019
10435   0

26 มี.ค.62 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง “วิกฤต…ที่ต้องมองเห็น!”ผ่านเว็บไซต์ thaipost โดยมีเนื้อหาดังนี้

ถาม วิกฤตที่ก่อตัวจากการเลือกตั้งครั้งนี้ คืออะไร
ตอบ การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ถูกบิดผันจนกลายเป็นการเลือกข้าง ไปแล้วว่า ใครจะเอาหรือไม่เอาลุงตู่ นี่คือกับดักทางสังคมการเมืองที่อันตรายมากๆ

มาบัดนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ที่คุณธนาธรเขาประกาศว่า จะดึงบ้านเมืองกลับไปต่อกับปี ๒๔๗๕ นั้นคืออะไร

ถาม ปฏิเสธสถาบัน อย่างนั้นหรือ
ตอบ ถ้าพวกเขาสามารถทำให้กระแสปฏิเสธ คสช. กระพือกลายเป็นกระแสปฏิเสธทั้งกองทัพและสถาบันกษัตริย์ได้สำเร็จ ว่า แท้จริงทั้งสองสถาบันนี้คือธาตุชีวิตของ คสช. ที่เป็นสิ่งกีดขวางต่อการสร้างสรรค์อนาคตใหม่ของมวลชนเมืองไทยมาตลอด …ถ้าทำให้เห็นอย่างนี้ได้เมื่อใด ปี ๒๕๖๒ ก็จะต่อติดกับปี ๒๔๗๕ ทันที

ถาม กระแสปฏิเสธ คสช.คือหนุ่มสาว ๗ ล้านคน หรือ
ตอบ ทางนี้มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่แหละครับ ในบ้านผมมีหมดเลย ใครไม่มีความสุข ไม่เห็นอนาคต ไม่พอใจใน ๕ ปีที่ผ่านมา ก็มารวมกันตรงโหวตนี้ ครั้นพอเห็นทหารเต็มรัฐบาล เต็มรัฐวิสาหกิจ เต็มสภา บวกด้วยเพลงหนักแผ่นดินจากวิทยุทหาร กองทัพ ก็กลายเป็นจำเลยใหญ่ไปเลย

พอมา ๘ กุมภา และ ภาพงานแต่งงานที่ฮ่องกง สถาบันก็ถูกดึงลงมาในเวทีฝักฝ่ายนี้อีก ทักษิณเขาจงใจมากๆ

การตั้งพรรคกางใบเรือขึ้นมารับกระแสความไม่พอใจ ความเขม่นเหม็นหน้า คสช. แล้วปั่นปลุกต่อไปให้กลายเป็นความเกลียดชังสถาบันแห่งความมั่นคงนี่แหละครับ คือคำอธิบายในอดีต หลุมพรางในอนาคตอันใกล้นี้

ถาม ไฮไลต์ ของกระแสนี้อยู่ตรงจุดไหนครับ
ตอบ มันจะสั่งสมไปเรื่อยๆ ตามจังหวะการเมืองต่างๆ ทั้งการให้ใบเหลืองใบแดงของ กกต.ใน ๑ เดือนข้างหน้า ทั้งการแต่งตั้ง สว.จากกลุ่มดาวเทียม คสช.ต่างๆ และจะระเบิดตูมตามหนักที่สุดตรงการตั้งนายกฯรัฐมนตรี ถ้าฝ่ายแดงเขารวมได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทน แล้ว คสช.ไปเอาเสียง สว.มาปฎิเสธไม่ให้เขาเป็น นายกฯ อย่างนี้ระเบิดแน่ๆ ระเบิดกลางถนนเลย

ถาม ถ้าฝ่าย คสช.ได้เสียงข้างมากของ สส.ล่ะครับ
ตอบ ถ้า อาศัยกองทัพงูเห่า ก็เป็นเรื่องเหมือนกัน

ถาม ประชาธิปัตย์ จะยอมร่วมมือกับ คสช.หรือไม่?
ตอบ การปฏิเสธทั้งคุณประยุทธ์ และพรรคเพื่อไทยของคุณอภิสิทธิ์ นั้น แท้จริงคือการปฏิเสธการ “เลือกข้าง” ที่ก่อตัวเริ่มจากความพยายามที่จะอยู่ต่อของ คสช. และจากวาทะกรรม ฝ่ายประชาธิปไตย-ฝ่ายเผด็จการ ของฝ่ายแดง ถ้ากลับสู่การ “เลือกตั้ง”ได้จริงๆ คือ คสช.หยุดไม่อยู่ต่ออีกแล้ว ดังนี้คุณอภิสิทธิ์ถึงบอกว่า ก็พร้อมร่วมกับ พลังประชารัฐ

นี่แหละครับคือจุดยืนก่อนเลือกตั้งของ ปชป.

ถาม หลังเลือกตั้ง จะเปลี่ยนไปได้ไหม
ตอบ เป็นไปได้ว่าจะร่วมมือให้เสียงตั้งลุงตู่เป็น นายกฯ ก่อน แต่ตอนจัดตั้งรัฐบาลนั้น ปชป.ไม่ร่วมด้วย จะลอยตัวเป็นพรรคลอย คือไม่ค้านและไม่ร่วมสังฆกรรมเป็นฝ่ายค้านกับพวกแดง จุดยืนพรรคลอยไม่เลือกข้างแบบนี้ พรรคพลังธรรมโดยลุงจำลองเคยยืนมาแล้ว ผมเชื่อว่าแนวทางนี้น่าจะยังเป็นทางเลือกหนึ่งอยู่ในวันนี้

ถาม ในภายหน้า ถ้าฝ่ายแดงผลักดัน แก้กฎหมายให้การแต่งตั้งทหารเป็นสิทธิขาดของรัฐบาล จะสำเร็จไหม
ตอบ ถ้ามีเสียงข้างมากในสภาสนับสนุน ก็สำเร็จผ่านสภาได้ในทางกฎหมาย

ถาม แล้วออกกฎหมายยกเลิกคำพิพากษาคดีทักษิณล่ะครับ
ตอบ ไม่สำเร็จ เพราะกฎหมายที่กระทบกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรงเช่นนี้ รัฐธรรมนูญเขียนให้วุฒิสมาชิกเขาประชุมร่วมตัดสินใจด้วย ฝ่ายแดงเขาคงต้องหาทางช่วยโดยแก้รัฐธรรมนูญ

ถาม มีทางหรือครับ
ตอบ ถ้าแก้เป็นเรื่องๆ ก็ติด สว.ด้วยอยู่ดี ถ้าจะอุบไต๋ไว้คอยตอนลงมือแก้ทั้งฉบับนี่ ก็ต้องแก้ตรงกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งก็ติดทั้ง สว.และข้อกฎหมายด้วย เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินมาแล้วว่าทำไม่ได้

สรุปแล้วต่อให้ฝ่ายแดงได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทน ก็ทำไม่ได้หรอกครับ

ถาม เมื่อชัดเจนว่าฝ่ายแดงเขารื้ออะไรไม่ได้อย่างนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ คสช.จะยอมสลายอำนาจ
ตอบ คงยากครับ ขอแต่เพียงให้มีสติทางการเมืองบ้างก็พอแล้ว ถ้า สส.แดงเขาหนุนใครเป็นนายกฯ ได้ด้วยเสียงเกินกึ่ง ก็อย่าหน้าด้านไปขวางเขาเลย

รู้ไหมว่านี่คือเป้าหมายสูงสุดที่ธนาธรกับทักษิณต้องการจะให้เกิดขึ้น

ขืนพวกคุณทำอย่างนี้ สังคมไทยต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ แน่นอน

รู้จักไหม…คำว่า “กูไม่กลัวมึง!”

Cr.thaipost

สำนักข่าววิหคนิวส์