10 ก.ย.60 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในคดีดังกล่าวอยู่ในมือ
จึงต้องรอดูคำพิพากษาก่อน เพราะจะทำให้เห็นลู่ทางอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น แต่คำพิพากษาที่ออกมายังไม่ถึงที่สุดอยู่ดี เนื่องจากเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่อย่างน้อยพอจะทำให้เห็นแนวทางอยู่บ้าง ทั้งนี้ ได้ให้หลักหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไป 2 ข้อคือ จะต้องไม่นิรโทษกรรม ไม่อภัยโทษ ต้องไม่ล้างมลทินให้กับใครถ้าผิดให้เดินไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่จะทำอย่างไรกับชาวบ้านที่จะต้องให้ความช่วยเหลือเขาได้ โดยเฉพาะผู้ที่สุจริต เพราะมีบางกรณีที่ไม่สุจริต
แนวหน้า – ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดูเป็นกรณีไปใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะใช้คำนั้นก็ได้ แต่ไม่ถูกนัก เอาเป็นว่า เริ่มต้นจะต้องไปดูว่า มีผู้ที่ได้รับผลกระทบกี่ราย วันนี้รู้จำนวน แต่เป็นเพียงคร่าวๆ ตนรู้แต่เพียงว่า มันแยกออกจาก 900 กว่าไร่ เป็น 600 กว่าแปลง แปลงใหญ่ 200 ไร่ มีสนามกอล์ฟ และแปลงเล็กๆ 20 – 50 ตารางวา ที่มีจำนวนมาก จึงต้องไปดูมาทั้งหมดเป็นรายๆ ว่า ซื้อมาจากใคร เมื่อใด ได้มาฟรีหรือซื้อมา เราตั้งไว้ว่า ต้องสุจริต เสียค่าตอบแทน และไม่ผิดกฎหมาย จดทะเบียนถูกต้อง ถ้าได้หลักตรงนี้กฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว และจะมาดูว่า จะทำอย่างไร ตนยังคิดไม่ออกว่าอย่างไร เพียงแต่แนวทางนั้นมีอยู่
เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีกระทรวงมหาดไทย เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการาม นายวิษณุ กล่าวว่า ที่จริงไม่ใช่กระทรวงมหาดไทย แต่เป็นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า วางกรอบระยะเวลาการทำกฎหมายไว้นานเท่าใด นายวิษณุ กล่าวว่า อย่างน้อยต้องอ่านคำพิพากษาก่อน ซึ่งคงอีกไม่กี่วันที่จะได้อ่าน วันนี้รู้กันแต่เพียงว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผิด แต่ไม่รู้กันว่า ทำไมถึงผิด จึงต้องอ่านกันก่อน เพื่อให้เราไม่ทำผิดซ้ำอีก
สำนักข่าววิหคนิวส์