วีระ สมความคิด ได้โพสข้อความผ่าน ดacebook ระบุว่า คุณมีชัย ฤชุพันธ์ ยอมรับเคยดำรงตำแหน่งในกฤษดามหานคร(ประธานคณะกรรมการบริษัทกฤษดามหานคร ช่วงปี 2535 – 2555) ระหว่างที่บริษัทกฤษดามหานครทำการฟอกเงินธนาคารกรุงไทย คุณมีชัยยืนยันว่าบริษัทกฤษดามหานครไม่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นที่ทำผิดกฎหมาย
คุณมีชัย คงลืมไปแล้วว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 55/2558 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ได้พิพากษาเกี่ยวกับบริษัทกฤษดามหานครและผู้บริหารของบริษัทกฤษดามหานคร(จำเลยที่ 25 นายวิชัย กฤษดาธานนท์ และจำเลยที่ 26 นายรัชฎา กฤษดาธานนท์) ว่าอย่างไรกันบ้าง
ผมจะนำคำพิพากษาดังกล่าวมาทบทวนให้คุณมีชัยได้จดจำไว้สอนลูกสอนหลานนะ ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 20 ที่ 25 และที่ 26 (บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) นายวิชัย และนายรัชฎา กฤษดาธานนท์) ดังนี้ คำพิพากษาหน้า (76)
“จำเลยที่ 18 ถึงที่ 22 ซึ่งเป็นนิติบุคคลให้ปรับรายละ 26,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 23 ถึงที่ 27 ให้จำคุกคนละ 12 ปี ให้จำเลยที่ 20 ที่ 25 และที่ 26 ร่วมกันคืนเงิน 10,004,467,480 บาท แก่ธนาคารผู้เสียหาย (ธนาคารกรุงไทย) ”
ชัดเจนนะ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นไปทำความผิด แต่คือผู้บริหารบริษัทฯที่ไปทำความผิด ศาลฎีกาฯเขียนคำพิพากษาดังนี้ว่า
“จำเลยที่ 18 ถึงที่ 22 เป็นนิติบุคคลกลุ่มเดียวกัน ที่มีจำเลยที่ 25 เป็นผู้บริหารหลักหรือเป็นเจ้าของที่มีอำนาจควบคุมนิติบุคคลเหล่านั้น”
ต่อไปให้พูดความจริง หากพูดไม่จริง จะถูกกรรมตามทันตาเห็นคุณเองก็เป็นนักกฎหมายชั้นครูอย่าลืมสัจจธรรมนี้
“อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอย”เตือนมาด้วยความหวังดี
สำนักข่าววิหคนิวส์