8 ก.ค.2567 – เวลา 13.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกสว. โดยนายสมชาย กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเสนอญัตติว่าวุฒิสภาชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีวุฒิสภา ชุดที่ 13 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการเลือกสว. และประกาศรับรอง ส่วนวุฒิสภาชุดนี้ก็ทำงานไปจนกว่าจะครบวาระ อย่างไรก็ตาม เรายังมีการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ พฤติกรรมและจริยธรรมทั้งอัยการสูงสุดและ ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งคาดหมายว่าถ้าสัปดาห์หน้าวุฒิสภาชุดนี้ทำอยู่ ก็จะได้ให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งคิดว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง
“ยืนยันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีว่าไม่มีเจตนาหรือประสงค์ที่จะยื้อหรืออยู่ต่อ เหมือนที่กล่าวหาให้ร้ายในสังคม เพียงแต่ต้องทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญทุกมาตรา ยกเว้นมาตรา 272 เลือกนายกฯ ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีเพื่อส่งต่อให้วุฒิสภาชุดใหม่” นายสมชาย ระบุ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า พวกเราทุกคนเก็บของนานแล้ว คืนพัสดุ คืนกุญแจเรียบร้อย แต่ยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป เหมือนที่นพ.อำพน จินดาวัฒนะ สว. ยกตัวอย่างไว้ว่าเราเป็นเหมือนหมอฉุกเฉิน ตราบใดที่ยังไม่มีแพทย์มาแทนต้องรักษาคนไข้ เมื่อแพทย์ชุดใหม่เข้ามา พวกเราก็ให้เขามาทำหน้าที่ได้ทันที
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า การให้กกต.รับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลัง ตนเห็นว่ากระทำไม่ได้ เพราะตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกสว. มาตรา 42 เมื่อกกต.ได้รับรายงานเลือกกันเองแล้ว ให้รอ 5 วัน เมื่อพ้นกำหนด หากกกต. 7 คนเห็นว่าเลือกถูกต้อง สุจริต เที่ยงธรรม ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา อีกทั้งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกสว. ไม่ได้เขียนไว้ว่าให้รับรองก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง ฉะนั้น กกต.มีหน้าที่ตรวจสอบสุจริตเที่ยงธรรม หากเห็นเป็นดังนั้นก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น