วันที่ 16 เม.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเกี่ยวกับข้อคิดการบริหารจัดการโควิด โดยเปรียบเทียบประสบการณ์จากต่างประเทศ ระบุว่า
ชวนคุณประยุทธ์ดูสถานการณ์อังกฤษที่กลับมามีความหวังด้วยวัคซีน
บรรยากาศในอังกฤษเต็มไปด้วยความหวัง เศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์เห็นตรงกัน คนจะเริ่มใช้จ่ายในไม่ช้า
จนถึงวันนี้ อังกฤษฉีดวัคซีนไปแล้ว 60.6% ของจำนวนประชากร และมีประชากรที่ฉีดครบสองเข็มไปแล้ว 12.2%
อังกฤษกำลังจะเปิดให้ประชาชนทำกิจกรรมตามปกติ หลังจากมีการล็อกดาวน์ป้องกันการระบาดรอบสามตั้งแต่เดือนมกราคม บริการต่าง ๆ ทยอยกลับมาค้าขายดำเนินการได้ตามปกติในสัปดาห์ที่ผ่านมา
บรรยากาศในอังกฤษเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหวัง อารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมสดใส ทุกคนรู้ว่าอีกไม่นานวัคซีนจะฉีดได้ครบ ชีวิตปกติกำลังจะกลับมา เมฆดำกำลังจะผ่านพ้นไป ทุกคนเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง
นักเศรษฐศาสตร์คาดคะเนว่าเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะในช่วงการแพร่ระบาด ประชาชนจำนวนมากไม่ได้ใช้จ่าย ในขณะที่รัฐบาลให้การดูแลอย่างครอบคลุม ทำให้ครัวเรือนมีเงินเก็บในช่วงโควิดมากถึง 180,000 ล้านปอนด์ หรือเทียบเท่ากับ 10% ของระบบเศรษฐกิจ
หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ กล่าวว่าตอนนี้เศรษฐกิจมีสภาพเหมือนกับ “ขดลวด” ที่รอคอยการระเบิด ประชาชนอังกฤษรอคอยที่จะใช้จ่ายเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
รัฐบาลอังกฤษให้สัญญากับประชาชนว่า ภายในเดือนกรกฎาคม ผู้ใหญ่ทุกคนในประเทศจะต้องได้ฉีดอย่างน้อยเข็มแรก
เมื่อกลับมาดูสถานการณ์ในประเทศไทย เวลานี้เรากำลังกลับเข้าสู่สถานการณ์กึ่งล็อกดาวน์อีกครั้ง จากการแถลงของรัฐบาลเมื่อสักครู่นี้
ส่วนแผนการฉีดวัคซีนของประเทศไทย กำลังจะเริ่มมีการฉีดในปริมาณมากในเดือนกรกฎาคม
แม้จะช้าไปมากแล้ว แต่ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี
แม้หลายสิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้ได้เกิดขึ้นเป็นจริงแล้วในประเทศไทยเป็นฉากๆ แต่ผมก็ยังแอบหวังว่ารัฐบาลจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ เพื่อฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ในจำนวนที่มากพอจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
และที่นายกรัฐมนตรีแถลงเมื่อสักครู่ว่ามีแผนจะพยายามจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นๆเพิ่มอีก แม้จะช้าไปมากแล้วก็ตาม ก็หวังว่าจะดำเนินการได้ลุล่วง
เพื่อให้บรรยากาศแห่งความหวังเช่นนี้กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง