รายงานข่าวจากที่ประชุมศูนย์บริหารเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโควิด -19 “ศบศ.” ที่มี พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวันนี้เห็นชอบในหลักการให้เปิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจาก จ.ภูเก็ต ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกไปยังพื้นที่อื่นๆในรูปแบบเที่ยวข้ามเกาะ หรือ “Island hopping” ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล จ.กระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ในรูปแบบ 7+7 คืออยู่ในพื้นที่ภูเก็ต 7 วัน ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR เมื่อไม่พบเชื้อก็ให้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้ซึ่ง ศบศ.เห็นชอบในหลักการและให้มีการเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจากสถานการณ์โควิด-19 “ศบค.” รับทราบต่อไป
ส่วนพื้นที่อื่นๆที่มีการเสนอให้มีการเดินทางจากภูเก็ตแซนด์บ็อกไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้ให้มีการพิจารณาจากเงื่อนไขในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วยเนื่องจากบางพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปได้แค่ประมาณ 30 % เท่านั้นจึงต้องมีการเร่งรัดเรื่องการฉีดวัคซีนด้วยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์กล่าวว่าเมื่อมีการฉีดวัคซีนได้มากขึ้นและมีการเปิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงหลายพื้นที่จะทำให้เกิดเป็นอันดามันแซนด์บ็อกที่จะช่วยการท่องเที่ยวของประเทศได้
นอกจากนั้นที่ประชุม ศบศ.ได้มีการเร่งรัดให้องค์การอาหารและยา (อย.) เร่งรัดการอนุมัติวัคซีนชนิดสปุตนิควีในประเทศไทยด้วยเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่มีการฉีดวัคซีนชนิดนี้แล้วต้องการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศรัสเซียและยุโรปบางประเทศที่ฉีดวัคซีนชนิดนี้
ขณะเดียวกันได้มีการขอให้กระทรวงสาธารณสุขนำเอาชุดตรวจโควิด-19 แอนติเจน เทส คิส ที่ประชาชนสามารถตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองไปแจกจ่ายในพื้นที่ภูเก็ตเพื่อให้การตรวจหาเชื้อทำได้รวดเร็วมากขึ้น