14 พ.ค.61 – นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร้องเรียนมายังสมาคมว่าพบเห็นการนำซากสัตว์ป่ามาค้าขายกันมากในพื้นที่บริเวณหลังตลาดทุ่งเกวียน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเมื่อเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่ามีการค้าขายจริง ซึ่งมีผู้ค้ามากเกือบสิบร้าน
โดยแต่ละร้านจะมีการร้องเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านซื้อ โดยอ้างว่าเป็นเนื้อเก้ง เนื้อกวาง กระจง หมูป่า กระต่ายป่า ตุ่น กระรอก รังผึ้งป่า ฯลฯ ซึ่งซากสัตว์ป่าเหล่านี้ ล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 19, 20 และ 21 คือ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าวฯ และหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ตลาดทุ่งเกวียน หรือกาดทุ่งเกรียน ขึ้นชื่อมานานว่าเป็นแหล่งค้าซากสัตว์ป่า ตั้งอยู่ริมถนนหมายเลข 11 ลำปาง-เชียงใหม่ อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ อบต.เวียงตาล นายอำเภอห้างฉัตร ทสจ.ลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งควรจะมีการกวดขันห้ามค้าขายซากสัตว์ป่าให้หมดไปนานแล้ว แต่กลับยังปล่อยให้มีค้าขายกันแบบโจ่งครึ่ม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่สำคัญไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐคนใด ลงพื้นที่ไปตรวจตรา สั่งห้าม หรือดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเลยหรืออย่างไร หรือกฎหมายมีข้อยกเว้นให้สำหรับคนบางกลุ่ม บางพวก บางพื้นที่ได้ และกรณีดังกล่าว รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ควรตื่นขึ้นมาทำงานโดยสั่งการให้มีการกวาดล้างการค้าขายซากสัตว์ป่าในตลาดท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่ใกล้เขตอุทยานฯ ใกล้ป่าสงวน หรือใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตลาดค้าขายใกล้ชายแดนทั่วประเทศ
“กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดทุ่งเกวียนนี้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไม่เร่งรีบดำเนินการป้องปรามตามกฎหมาย สมาคมฯจะต้องนำความร้อง ป.ป.ช. และฟ้องศาลปกครองต่อไปแน่นอน” นายศรีสุวรรณ กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์