ศาลฎีกายกฟ้อง กรณี “กรณ์” ฟ้องหมิ่น “จิรายุ- อนุดิษฐ์” หลังตรวจสอบอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน สู้กันถึงขั้นฎีกาหลังสู้กันมากว่า 7 ปี ชี้เป็นคดีต้นแบบข้าราชการนักการเมืองรับของเกิน3พัน
26 ธ.ค.60 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุเทพมหานคร กล่าวภายหลัง จาก เข้ารับฟัง คำพิพากษาในคดีที่นายกรณ์ จาติกวาณิช อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกกล่าวหาว่า อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ในการอัพเกรดตั๋วเครื่องบินของสายการบินไทยให้กับตนเองและภรรยาและลูกหลานในการเดินทางหลายครั้งในปี 2552-2553
ซึ่งตนกับพวก ได้ติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวในฐานะฝ่ายค้าน ทั้งนี้ นายกรณ์ กับพวก ได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทตน และเรียกค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท และต่อมาศาลอาญาตัดสินยกฟ้อง เพราะมีมูลเหตุในการติดตามตรวจสอบของตน จากนั้น นายกรณ์ ได้ยื่นอุทธรณ์ ในปี 2557 ซึ่งศาลอุทธรณ์ ก็ได้พิพากษายืนให้ยกฟ้องตนเช่นเดียวกัน เพราะเป็นการทำหน้าที่ทั้งในฐานะอดีตพรรคฝ่ายค้าน และในฐานะประชาชนอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ทั้งนี้ ตนก็นึกว่าเรื่องจะจบในชั้นอุทธรณ์ที่ยกฟ้องเพราะเป็นคดีที่ตนตรวจสอบ รัฐมนตรีฝ่ายรัฐบาลอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่นายกรณ์ ได้ยื่นศาลขอฎีกาในคดีนี้อีกครั้ง ซึ่งวันนี้ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืนให้ยกฟ้อง ตน และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม. ตามศาลต้น และศาลอุทธรณ์ เนื่องจากตนกับพวกได้ทำหน้าที่แทนประชาชน ทั้งในส่วนของฝ่ายค้าน และในส่วนของประชาชน ที่มีสิทธิในการติดตามตรวจสอบ อีกทั้งเป็นขอเท็จจริงที่มีการอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเรื่องนี้ จะเป็นบรรทัดฐานให้ ข้าราชการ ที่รับทรัพย์สินหรือ สิ่งของต่างๆ ควรพึงระวังแม้นจะมีผู้หวังดีทำให้ฟรีๆ ก็ตาม