‘เกษม นิมมลรัตน์’ ขอขยายเวลายื่นคำคัดค้านคดียื่นบัญชีเท็จ เผยข้อเท็จจริง-พยานหลักฐานที่ต้องตรวจสอบมีมาก ศาลฎีกาฯอนุญาต นัดสอบคำให้การ 13 พ.ย. 62 พบปกปิดที่ดิน 7 แปลง 14 ล. สิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง รถยนต์ 2 คัน ส่วน ‘ภรรยา’ ปกปิดที่ดิน 3 แปลง 1 ล. และเงินลงทุน ASCON 20 ล้านหุ้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาครั้งแรก คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ผู้ถูกร้อง กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ต้องแจ้งให้ทราบแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช.
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. องค์คณะขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดี โดยศาลอ่านคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ 4 โดยเป็นการไต่สวนในช่วงระหว่างนายเกษมพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี รองนายก อบจ.เชียงใหม่ และช่วงเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เลขานุการนายก อบจ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5 ต.ค. 2559-4 ต.ค. 2560 และพบว่า นายเกษม กับนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรส ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินบางรายการ โดยในส่วนของนายเกษม ไม่ได้ยื่นที่ดิน 7 แปลง มูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง และรถยนต์ 2 คัน ส่วนคู่สมรส ไม่ได้ยื่นที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 1 ล้านบาทเศษ และเงินลงทุนของบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON ประมาณ 20 ล้านหุ้น
ต่อมา นายเกษม พร้อมด้วยทนายความขอขยายเวลายื่นคำคัดค้าน โดยขอส่งคำคัดค้านในวันที่ 30 ส.ค. 2562 เนื่องจากคดีมีข้อเท็จจริง และอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก ศาลอนุญาต และนัดสอบคำให้การอีกครั้งในวันที่ 13 พ.ย. 2562
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ก่อนหน้า ป.ป.ช.ชี้มูลนายเกษม แล้ว 3 คดี เป็นคดียื่นบัญชีฯเท็จ 1 คดี และร่ำรวยผิดปกติ 2 คดี กล่าวคือ เมื่อปี 2559 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด จงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ โดยแจ้งในส่วนของหนี้สินเท็จกว่า 72 ล้านบาท และร่ำรวยผิดปกติ วงเงินกว่า 168 ล้านบาท วันที่ 16 มี.ค. 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้จำคุกนายเกษม 1 ปี ไม่รอลงอาญา และยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน เป็นทรัพย์สิน 7 รายการ มูลค่า 168,453,245.70 บาท ในจำนวนนี้เป็น หุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในชื่อนางบุญทอง สุภาษี (มารดานายเกษม) ผู้คัคค้านที่ 2 จำนวน 20,612,770 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 3.60 บาท มูลค่า 74,205,972 บาท และหุ้นบริษัทดังกล่าวที่อยู่ในชื่อของนางดวงสุดา ที่ขายไปแล้ว จำนวน 923,000 หุ้น มูลค่า 3,015,214.34 หุ้น ,หุ้นบริษัท วินโคสท์ ฯ ที่เหลือจากการขายตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 1,000,168 หุ้นมูลค่า 390,065.52 บาท , เงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท เอ็มลิ้งค์ฯ ของนางดวงสุดา จำนวน 4,187,700 หุ้น เป็นเงิน 5,407,163.98 บาท จากทรัพย์สินที่ถูกยึด 7 รายการ
ต่อมา ป.ป.ช.ชี้มูล คดีร่ำรวยผิดปกติ 21 ล้านบาท กรณีดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.เชียงใหม่ ศาลฎีกาฯ พิพากษายึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2561 ได้แก่
1. ที่ดินที่อยู่ในชื่อของนายเกษม จำนวน 2 แปลง มูลค่าขณะได้มา 11,865,000 บาท ได้แก่ ที่ดินโฉนดเลขที่ 11777 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 3 งาน 96.4 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่ 11783 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 3 งาน 95 ตารางวา และ 2. เงินลงทุนในการซื้อหุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON) ที่อยู่ในชื่อของ นางดวงสุดา นิมมลรัตน์ (คู่สมรส) จำนวน 61,838,310 หุ้น มูลค่าขณะได้มาหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 9,275,746 บาท
นายเกษมเป็นคนใกล้ชิดครอบครัววงศ์สวัสดิ์ของนายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นักการเมืองชื่อดัง
Cr. isranews
สำนักข่าววิหคนิวส์