ศาลอ่านคำสั่งศาลฎีกา กรณีการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีหมายเลขดำ อท.43/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง
สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร,น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง , น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ , นายกริช วิปุลานุสาสน์ ทั้งสามเป็นอดีตผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
แนวหน้า – กรณีที่พวกจำเลย ไม่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2549 ที่ต้องชำระภาษีคนละกว่า 7 พันล้านบาท ของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรนายทักษิณ ชินวัตร จากการซื้อหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น จาก บริษัท แอมเพิลริช และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยที่ 1 – 4 คนละ 3 ปี และจำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ต่อมาจำเลยทั้งหมดยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา หลังจากศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาจำคุกพวกจำเลยเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งห้า โดยตีราคาประกันคนละ 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้จำเลยทั้งหมดนำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) มามอบต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯไว้ และให้ศาลแจ้งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้ทราบโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้ศาลได้ออกหมายปล่อยจำเลยทั้งห้า ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพและทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเป็นที่คุมขัง เพื่อให้ดำเนินการปล่อยตัวจำเลยจากเรือนจำคาดว่าไม่เกินเวลา 20.00 น.
สำนักข่าววิหคนิวส์