ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 9 เดือน รอลงอาญา 2 ปีและโทษปรับ 15,000 บาท คดีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ใช้งบ สตง.จำนวน 294,440 บาทให้ข้าราชการร่วมถวายผ้ากฐินเมื่อปี 2546 ที่ จ.น่าน แต่อ้างจัดสัมมนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีอัยการ ยื่นตรวจสอบฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามมาตรา 157 กรณีเบิกจ่ายเงินในการจัดสัมมนาที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2546 โดยมิชอบ เนื่องจากไม่ได้จัดสัมมนาจริง แต่เพื่อให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนาได้ไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน แล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงบเดียวกัน 294,440 บาท ทำให้ สตง.เสียหาย
โดยวันนี้ โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แล้วเห็นว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น จำเลยที่ 1 ไม่เคยถูกลงโทษ ทางวินัย และได้เคยประกอบคุณงามความดี ขณะที่พฤติการณ์ความผิดนี้ แม้จะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมคุณธรรมของเจ้าพนักงานด้วย แต่เมื่อเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินนั้น จำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนเองอีกครั้งจำนวนเงินในคดีนี้ก็มีจำนวนไม่มาก กับเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจึงสมควรให้โอกาสจำเลย ในการรอการลงโทษไว้ แต่เห็นควรให้เพิ่มการลงโทษปรับ จำเลยที่ 1 ด้วย
จึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา จึงเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน โดยโทษปรับจำนวน 20,000 บาทนั้นเมื่อลดโทษ 1 ใน 4 แล้วคงปรับเป็นเงิน 15,000 บาท
ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แล้วเห็นว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น จำเลยที่ 1 ก็ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และได้เคยประกอบคุณงามความดี ขณะที่พฤติการณ์ความผิดนี้ แม้จะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมคุณธรรมของเจ้าพนักงานด้วยแต่เมื่อเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินนั้น จำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง อีกทั้งจำนวนเงินในคดีนี้ ก็มีจำนวนไม่มาก กับเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจึงสมควรให้โอกาสจำเลย โทษจำคุกนั้นให้รอการลงโทษเป็นเวลา 2 ปี
คดีใช้งบจัดสัมมนาแต่พ่วงงานกฐิน
สำหรับคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2558 ว่าอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายคัมภีร์ สมใจ อายุ 73 ปี อดีต ผอ.สำนักบริหารงาน และทรัพยากรบุคคล สตง.มีความผิดตามมาตรา 157 ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ แต่ได้รับการประกันตัว
ส่วนศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกคนละ 1 ปี ไม่รอการลงโทษ ขณะที่ระหว่างฎีกา คุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ ได้ประกันตัวคนละ 200,000 บาท ทั้งนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกาครั้งแรก เมื่อ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้เลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากบุตรชายของนายคัมภีร์ ยื่นคำร้องแถลงว่าจำเลยมีอาการภาวะหัวใจล้มเหลว พร้อมนำใบรับรองแพทย์จาก รพ.รามคำแหง และรพ.พระมงกุฏเกล้า มาแสดงต่อศาลว่าจำเลยที่ 2 จะต้องรอผ่าตัดจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 เดือน ศาลจึงให้เลื่อนอ่านคำพิพากษามา เป็นวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าจำเลยที่ 2 ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2562 ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
Cr.thaipbs
สำนักข่าววิหคนิวส์