11 มี.ค.61 นายศิริโชค โสภา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊กระบุข้อความ “ไปที่ชอบได้เลยครับ” พาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า มีหลายเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนสงสารนายวัฒนา ที่ยังคงย้ำคิด ย้ำทำ วนเวียนอยู่กับการให้ความจริงประชาชนเสี้ยวเดียว โดยไม่เคยคิดทบทวนความผิดพลาดที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบอบเลวร้ายที่เรียกกันว่าระบอบทักษิณ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่วาทกรรมตามที่พยายามกล่าวอ้าง โดยมีบทพิสูจน์ที่ชัดเจนจากพฤติกรรมการบริหารประเทศที่ขาดธรรมาภิบาล ไร้จิตสำนึก ใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจ และผลประโยชน์ โกงกินกันอย่างมโหฬาร จนนำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด
นายศิริโชค กล่าวอ้างว่า ตนขอยกตัวอย่างความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่จับต้องได้ ดังนี้ 1.ใช้กลไกรัฐสภาเป็นเครื่องมือออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตน แทรกแซง ศาล องค์กรอิสระ สื่อสารมวลชน
2.ทุจริตเชิงนโยบาย จนถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา และถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ลิ่วล้อก็ถูกตัดสินว่าโกงประเทศในยุคที่ระบอบทักษิณ เรืองอำนาจ เช่น นายประชา มาลีนนท์ ที่ถูกพิพากษาจำคุก 12 ปี ในคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง ส่วนคนที่รับใช้โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ก็ถูกตัดสินให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากคดีแก้ไขสัญญาสัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป
นี่ยังไม่รวมคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปแล้ว รายละเอียดเป็นอย่างไร นายวัฒนา คงทราบดี เพราะเป็นผู้ที่ถูกชี้มูลความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 149
“คำว่าระบอบทักษิณ จึงมิได้เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งขึ้นเอง นิยามกันเองและเข้าใจกันเอง อย่างที่คุณวัฒนากล่าวอ้าง แต่ในความทรงจำที่ยังกระจ่างชัดของคนไทย คือ นายทักษิณไม่เพียงแต่เป็นผู้ที่หนีคดี แต่ยังสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศ จนนำไปสู่วิกฤตการเมือง หากระบอบทักษิณที่เป็นมรดกตกทอดมาถึงยุคยิ่งลักษณ์ จะได้ทบทวนตัวเอง เลิกพฤติกรรมเลวร้าย มีสำนึกที่ดีต่อชาติบ้านเมืองแม้เพียงน้อยนิด คงไม่ฉ้อฉลระบอบประชาธิปไตย จนทำให้คนไทยเสื่อมศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตยเหมือนที่เป็นอยู่ในเวลานี้” นายศิริโชค กล่าว
นายศิริโชค กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับนายวัฒนาว่า ควรเล่นการเมืองเชิงสร้างสรรค์ เอาเวลาไปคิดนโยบายเพื่อสร้างความเจริญให้ประเทศ เพราะเป็นสิ่งที่หัวหน้าพรรคของตนยึดมั่นแนวทางนี้มาโดยตลอด คือ ติติง พร้อมข้อเสนอแนะ มีจุดยืนที่ชัดเจนบนความถูกต้อง แม้จะสวนทางกับผู้มีอำนาจในปัจจุบัน
“จุดยืนอีกประการหนึ่งของหัวหน้าและพรรคประชาธิปัตย์ คือ การไม่เอาด้วยกับพวกโกงประเทศไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม เพราะนักการเมืองบางพวกไม่เคยเปลี่ยนพฤติกรรมน่ารังเกียจ ไม่เคยมีสำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ต่างอะไรกับบัวเต่าถุย ที่จมปลักอยู่กับโคลนตม จนยากที่จะโผล่พ้นน้ำ ขนาดปลา เต่า กินเข้าไป ก็ยังต้องขากถุยออกมา” นายศิริโชค กล่าว
Cr.naewna
สำนักข่าววิหคนิวส์