เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 1,767 ราย โดยติดเชื้อในประเทศ 1,765 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,477 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 288 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 42,352 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 113 ราย หายป่วยสะสม 28,683 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 13,568 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รายแรกเป็นพระสงฆ์ อายุ 54 ปี มีโรคประจำตัว ไตเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ขณะป่วยอยู่กรุงเทพฯ วันที่ 12 เม.ย.มีอาการเหนื่อยหอบ หมดสติ นำส่งโรงพยาบาล แพทย์ทำการฟื้นคืนชีพไม่ดีขึ้น เสียชีวิตในเวลาต่อมา และส่งตรวจตรวจพบเชื้อโควิด ส่วนอีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 70 ปี มีโรคประจำตัว เอสแอลอี รูมาตอยด์ ไตเรื้อรัง ขณะป่วยอยู่กรุงเทพฯ วันที่ 5 เม.ย.มีอาการไข้ หายใจลำบาก วันที่ 12 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น จึงรักษาตัวที่โรงพยาบาล พบปอดอักเสบ ผลตรวจยืนยันติดเชื้อ วันที่ 17 เม.ย.อาการแย่ลง ไม่ตอบสนองการรักษา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 101 ราย ส่วนสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อ 141,300,538 ราย เสียชีวิต 3,023,813 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แล้วถ้าเราดูการติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.จนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าวันที่ 16 เม.ย.มีจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 11-50 รายเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการกระจายไปทั่วเป็นเพราะช่วงวันหยุดสงกรานต์แล้วมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไม่ เพราะเราไม่ลดการเคลื่อนย้าย แต่ต้องการให้ใส่แมสและอยู่ห่างกัน แต่ส่วนนี้อาจไม่ได้ผล ดังนั้นวันนี้จะเป็นวันแรกที่ข้อกำหนดฉบับที่ 20 มีผลบังคับใช้ เราจึงต้องควบคุมกันอย่างสูงสุด ฝากทุกคนให้ช่วยกันเพราะคนไทยเราต้องชนะ ส่วนมาตรการเวิร์คฟอร์มโฮมก็ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนหากหน่วยงานของท่านสามารถทำงานออนไลน์กันได้ก็ขอให้พิจารณาดำเนินการไปก่อน เพราะนโยบายของศบค.คือจำกัดที่หมายและลดการเคลื่อนย้าย