5 อำเภอสงขลายังมีน้ำท่วมขัง ระโนดหนักสุดทั้ง 12 ตำบล จมอยู่ใต้บาดาล ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10 ราย -พังงาประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 คน
Inn – สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา จนถึงขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ราบลุ่มริมทะเลสาบสงขลาและริมคลองในพื้นที่5อำเภอและยืดเยื้อมาเกือบ 2 สัปดาห์และท่วมหนักทั้งสองฝั่งของทะเลสาบสงขลาทั้งฝั่งคาบสมุทรสทิงพระทั้ง อ.ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร และฝั่ง อ.ควนเนียง ที่ยังหนักและครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดคืออ.ระโนด พื้นที่ทั้ง 12 ตำบล เช่นที่ชุมชนบ้านหัวเค็ด ต.ระโนด ยังคงจมบาดาลน้ำยังท่วมสูงเกือบเกือบ 1 เมตร ทางทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงระดมถุงยังชีพน้ำดื่มและยาเวชภัณฑ์ล่องเรือเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็กๆ
นอกจากนี้โรงเรียนในพื้นที่ทั้ง5อำเภออย่างน้อย50แห่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าอาจจะยังไม่สามารถเปิดเรียนได้เพราะโรงเรียนยังจมอยู่ในน้ำรวมทั้งถนนที่เป็นทางเข้าโรงเรียน
ส่วนภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลาล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 รายแล้วและเป็นยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใน จ.สงขลาเมื่อปี 2553
ตลาดน้ำคลองแหสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียง อ.หาดใหญ่ ยังคงถูกน้ำท่วมขังบริเวณท่าน้ำและท่าจอดเรือจนจมมิดนักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเดินได้ เรือลอยเคว้งคว้างในคลองรวมทั้งซุ่มที่นักนั่งและเก้าอี้ซึ่งจมอยู่ใต้น้ำ และถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 สัปดาห์ จากภาวะน้ำในคลองอู่ตะเภาและน้ำในคลองแหที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น แม้ว่าขณะนี้พื้นที่ต้นน้ำของคลองอู่ตะเภาทั้งอ.สะเดา อ.คลองหอยโข่ง และ อ.หาดใหญ่จะไม่มีฝนตกลงมาแต่ปริมาณน้ำที่ท่วมขังตลาดน้ำคลองแหก็ลดลงช้ามากและถูกท่วมขังนานที่สุดในรอบปีนี้ แต่แม้ว่าบริเวณท่าน้ำจะถูกน้ำท่วมแต่ตลาดน้ำคลองแหยังเปิดบริการตามปกติโดยพ่อค้าแม่ค้าจะนำของมาขายบนฝั่งแทนและสัปดาห์นี้ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างเนืองแน่น
พังงาประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ
นายสายัน กิจมะโน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพังงา เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของจังหวัดพังงา ส่งผลให้ราษฎรจำนวนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ทำให้จังหวัดพังงาต้องประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัย ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองพังงา ได้แก่หมูที่ 1,2,3,4,5 ต.ทุ่งกาโงก ม.3 ต.ถ้ำน้ำผุด ม. 5 ต.นบปริง
มีถนนทางเข้าออกหมู่บ้านถูกตัดขาด อำเภอกะปง ได้แก่ หมู่ที่ 2,3 ตำบลกะปง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 50 คน 7 ครัวเรือน อำเภอท้ายเหมือง ได้แก่ หมู่ที่ 1,2,5 ตำบลท้ายเหมือง หมู่ที่ 1,3,4,5,6 ตำบลลำภี และหมู่ที่ 9,10 ตำบลทุ่งมะพร้าว รวมราษฎรได้รับความเดือดร้อน 153 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือนร้อน 612 คน มีรถกระบะ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และอำเภอทับปุด
ได้แก่ หมู่ที่ 1,2,3 ตำบลบางเหรียง หมู่ที่ 1,3,4,5,6,8 ตำบลโคกเจริญ หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำทองหลาง และหมู่ที่ 2 ตำบลทับปุด ราษฎรในพื้นที่ตำบลทับปุดได้รับความเดือดร้อน 50 ครัวเรือน 200 คน รวมทั้งหมดจำนวน 11 ตำบล 32 หมู่บ้าน เบื้องต้นพบว่าทรัพย์สินของราษฎรได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ครัวเรือน มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1,000 คน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูล ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย บ่อปลา พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินราชการ ทั้ง ถนน สะพาน ไฟฟ้า และระบบประปาหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างไรก็ตาม พบว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมบางจุดยังสูง ขณะที่ปริมาณน้ำในลำคลองยังมีปริมาณมากและไหลเชี่ยวกราก กัดเซาะสะพาน และตลิ่งริมคลอง จนอาจเป็นอันตรายกับราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำลำคลอง
ทั้งนี้การประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินต่อไป เบื้องต้นได้ประสานกับท้องถิ่นเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ หากพบว่าท้องถิ่นรับมือไม่ไหวก็ขอให้เสนอการขอความช่วยเหลือไปยังอำเภอ หากทางด้านอำเภอยังรับมือไม่ไหวก็ขอให้เสนอไปยังจังหวัดเพื่อจะได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือพี่น้องประสบอุทกภัย
สำนักข่าววิหคนิวส์